“สุเทพ”เข็น“เอนก”นั่งหัวหน้าพรรครปช.ปั้นนักการเมืองรุ่นใหม่น้ำดี

21 พ.ย. 2564 | 06:30 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ย. 2564 | 13:43 น.

เข็น“เอนก เหล่าธรรมทัศน์”นั่งหัวหน้าพรรครปช. “ดวงฤทธิ์”รั้งเลขาฯ พรรคต่อ ประกาศเตรียมตัวสู้ศึกเลือกตั้ง ย้ำเป็นพรรคเล็ก-กลาง ที่มีคุณภาพ ด้าน “สุเทพ”ยินดี “อเนก”หวังอุทิศเวลาที่เหลือของชีวิตสร้างพรรคของประชาชน ปั้นนักการเมืองรุ่นใหม่น้ำดี

วันที่ 21 พ.ย.64 ที่อาคารหอประชุมใหญ่ (BTU Hall) มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2563

 

โดยก่อนเริ่มการประชุมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ปรึกษาและผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) พร้อมด้วยนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) ได้เดินทักทายสมาชิกพรรคที่มาร่วมประชุม

การประชุมดังกล่าวมี นายอเนก เป็นประธานการประชุม มีการรายงานการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา รวมทั้งการดำเนินการของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว) อาทิ การจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ตามนโยบายรัฐบาล โครงการ อว.ลดค่าเทอม เพื่อนักเรียนนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 การใช้มหาวิทยาลัยที่มีโรงเรียนแพทย์เปิดโรงพยาบาลสนามในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19

 

รวมทั้งการเป็นหน่วยในการฉีดวัคซีนโควิด-19 การเพิ่มช่องทางเข้าสู่ศาสตราจารย์โดยไม่จำเป็นแค่การส่งตำราหรืองานวิจัย  ยกเลิกการรีไทร์ในมหาวิทยาลัย รวมทั้งนโยบายผลิตยานอวกาศไปดวงจันทร์ สร้างดาวเทียม ทำให้เกิดเศรษฐกิจอวกาศ เป็นต้น

                               “สุเทพ”เข็น“เอนก”นั่งหัวหน้าพรรครปช.ปั้นนักการเมืองรุ่นใหม่น้ำดี

ทั้งนี้ในการประชุม ยังมีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ รวม 7 คน ประกอบด้วย

 

นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นหัวหน้าพรรค

 

นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เป็นเลขาธิการพรรค

 

น.ส.จุฑาฑัต เหล่าธรรมทัศน์ เหรัญญิกพรรค

 

นายดนุช ตันเทิดทิตย์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค

 

นางสาวพัชรินรุจา จันทโรนานนท์

 

น.ส.ยอดขวัญ ชุมวระ กรรมการบริหารพรรค

 

นายพิรสุต จันทรานุวัฒน์ กรรมการบริหารพรรค

 

นอกจากนั้นยังมีการเลือกคณะกรรมการจริยธรรมและวินัยของพรรค รวม 5 คน ประกอบด้วยนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง นายวีระชัย คล้ายทอง พล.ต.ท.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ พล.ต.ต.ธนนท์ สิงหรา ณ อยุธยา และ พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์

 

นอกจากนั้นยังแจ้งย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของพรรค จากเดิมตั้งอยู่ที่อาคารทูแปซิฟิคเพลส ชั้น 21 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ย้ายไปที่ บ้านเลขที่ 29 ซอยเพชรเกษม 102/3 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

 

นายเอนก กล่าวภายหลังรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคว่า จะให้ความสำคัญกับสมาชิกพรรค โดยจะเตรียมพรรคสู่การเลือกตั้งในช่วงเวลา 1 ปี ต่อจากนี้ไป เรามีเวลา 1 ปีเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของพรรค ซึ่งเรามีผลงานในช่วง ที่ร่วมเป็นรัฐบาลในช่วง 2 ปีเศษที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของกระทรวง อว. และผลงานของ ส.ส.ของพรรคในสภา โดยเป้าหมายจะเป็นพรรคขนาดเล็กขนาดกลางที่มีคุณภาพ โดยเป็นพรรคของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน เพราะเราปกครองในระบอบประชาธิปไตยซึ่งต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม

                          “สุเทพ”เข็น“เอนก”นั่งหัวหน้าพรรครปช.ปั้นนักการเมืองรุ่นใหม่น้ำดี

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ปรึกษาและผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวว่า ภาคภูมิใจที่นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกที่ได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ในช่วงเวลาที่จะต้องเตรียมการเลือกตั้งในครั้งหน้า

 

ทั้งนี้ตนขอเป็นตัวแทนสมาชิกพรรคต้อนรับหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ความคิดที่เราจะสร้างพรรคการเมืองที่เป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริงเป็นความคิดที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะการตั้งพรรคการเมืองตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันมีจำนวนมาก แต่พรรคการเมืองที่เป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริงนั้นหายาก โดย 40 กว่าปี ที่ตนอยู่กับการเมือง หวังเห็นการเมืองที่ดีขึ้น แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คาด

 

“เชื่อว่าตอนนี้คนไทยจำนวนมากหวั่นวิตกกับการเมือง เพราะภาพนักการเมืองตามข่าวต่างๆ ไม่เหมาะสม ดังนั้น ถือโอกาสนี้เรียนถึงคนไทยที่วิตกกังวลเรื่องนี้ ควรเปลี่ยนพลังของความวิตกกังวลเป็นความสร้างสรรค์ มาสร้างพรรคการเมืองของประชาชน ที่ทำเพื่อประชาชนจริงๆ ไม่ใช่ประโยชน์ของพรรคหรือประโยชน์ของนักการเมือง”

 

นายสุเทพ กล่าวว่า ตอนนี้ตนอายุ 72 ปีแล้ว หวังว่าจะมีอายุถึง 80 ปี ดังนั้น ตนตั้งใจที่จะอุทิศเวลาที่เหลือของชีวิตร่วมกับประชานสร้างพรรคการเมืองของประชาชน สร้างนักการเมืองรุ่นใหม่หนุ่มสาวที่มีอุดมการณ์และพร้อมอุทิศตัวทำงานการเมืองเพื่อประชาชน

 

อย่างไรก็ตาม คราวหน้าหากเราได้รับเลือกตั้ง 15-30 คน นอกจากนายเอนกจะได้กลับไปดำรงตำแหน่ง รมว.อว. นอกจากนั้นพรรคยังจะได้บริหารกระทรวงอื่นด้วย