วันนี้(24 พ.ย.64) ที่จังหวัดชัยภูมิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่รับฟังปัญหาพี่น้องชาวนาภาคอีสานและจังหวัดชัยภูมิ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างหนัก ซึ่งในหลายอำเภอของจังหวัดชัยภูมิ พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายรวมไม่น้อยกว่า 1.2 ล้านไร่
โดยเกษตรกรชาวนา ได้สะท้อนปัญหาว่า ยังไม่ได้รับการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุทกภัย รวมถึงค่าเก็บเกี่ยวผลผลิตไร่ละ 1,000 บาท และเงินส่วนต่างจากโครงการประกันรายได้ของภาครัฐ ที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน ก็ยังไม่ได้รับเช่นกัน
นอกจากนี้ นโยบายประกันรายได้เกษตรกร ไม่เอื้อประโยชน์ให้ชาวนา แต่เอื้อประโยชน์แก่โรงสี นายทุน เนื่องจากต้องขายข้าวให้แก่โรงสี เพียงทางเดียว จึงจะได้รับใบซื้อขาย นำไปรับส่วนต่างราคาข้าวจากรัฐบาล ส่วนกลุ่มชาวนาที่สีข้าวเอง ปลูกข้าวที่มีคุณภาพ หรือข้าวที่ปลอดสารพิษ กลับไม่ได้รับการดูแล
คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยว่า การทำนาในปีนี้ ได้ผลผลิตไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย จังหวัดชัยภูมิทำนาได้ข้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 446 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับผู้ค้ารายอื่นๆในต่างประเทศ จึงไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะหากชาวนาขายข้าวที่เก็บเกี่ยวโดยไม่ตากจะได้เพียง 5 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น
ชาวนาจังหวัดชัยภูมิและพื้นที่ใกล้เคียง ยังประสบปัญหาข้าวเก่าคงค้างในยุ้งฉาง แต่ข้าวใหม่เริ่มเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว ทำให้อุปทานของข้าวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาข้าวยิ่งตกต่ำลง
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องชาวนา คุณหญิงสุดารัตน์ ได้รับซื้อข้าวสารในโครงการข้าวสานธรรม โดยจะนำข้าวอินทรย์ ปลอดสารเคมี ไปขายให้คนกรุงเทพฯ ได้รับประทานข้าวที่มีคุณภาพ ซึ่งในฤดูกาลผลิตที่ผ่านชาวนา ในโครงการข้าวสานธรรมของจังหวัดชัยภูมิ สามารถผลิตข้าวเปลือกหลายหมื่นกิโลกรัม และในระยะยาวหากพรรคไทยสร้างไทยได้เป็นรัฐบาล จะจัดทำโครงการแก้ไขปัญหาราคาข้าวอย่างยั่งยืน ให้ชาวนาสามารถขายข้าวหอมมะลิได้ไม่ต่ำกว่าเกวียนละ 15,000 บาท