วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ที่ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(รมช.มท.) เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (VDO Conference) โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีผู้แทนจากกระทรวงคมนาคม สาธารณสุข ยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนให้ความสำคัญในการบูรณาการขับเคลื่อนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเน้นมาตรการเชิงรุกในการจัดการแก้ไขปัจจัยเสี่ยง การเกิดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งด้านคน ด้านถนน ด้านยานพาหนะ และด้านสิ่งแวดล้อม
ตลอดจนเน้นการเสริมสร้าง ปลูกฝัง สร้างความตระหนักรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ “ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนลดลง” ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจัง และต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยให้นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นควบคู่กับการสร้างความตระหนักจิตสำนึกและมีความรับผิดชอบต่อสังคม
สำหรับปี 2565 ขอให้จังหวัด ให้ความสำคัญในการลดพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ หรือโดยสารจักรยานยนต์ ให้สวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่หรือโดยสาร 100% โดยให้ถือเป็นวาระจังหวัด และใช้กลไกระดับท้องถิ่นบูรณาการขับเคลื่อน เน้น มาตรการเชิงรุก โดยมีเป้าหมาย เพื่อให้เกิด “ตำบลขับขี่ปลอดภัย 100%”
ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2565 ขอให้บูรณาการทำงานร่วมกันในลักษณะยึดพื้นที่เป็นที่ตั้ง โดยเพิ่มความเข้มข้นการป้องกันและลดปัจจัยเสี่ยงทุกมิติ ควบคู่กับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยและขอให้ฝ่ายเลขาฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามมติที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติต่อไป” พล.อ.ประวิตร กล่าว
ด้านนายนิพนธ์ กล่าวว่า ได้ผลักดันการกำหนดแนวทางในการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ การเร่งรัดนำระบบตัดแต้มใบอนุญาตขับขี่มาใช้ การปรับปรุงหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตขับขี่รถทุกประเภท การจัดทำแนวทางใช้งบประมาณท้องถิ่น เพื่อความปลอดภัยทางถนน
รวมทั้งการสร้างการมีส่วนร่วมและความตระหนักเรื่องความปลอดภัยทางถนน โดยจะเริ่มระบบตัดแต้มกับกลุ่มรถรับจ้างและรถสาธารณะก่อนเป็นอันดับแรก และให้ความสำคัญกับกลไกในการขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน(ศปถ.) ทุกระดับ
โดยให้เร่งรัดการจัดตั้ง ศปถ.อปท.ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ เพื่อขับเคลื่อนตำบลขับขี่ปลอดภัย และบรรจุเรื่องความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระการประชุมประจำเดือน พร้อมทั้งรายงานมาที่ส่วนกลางให้ทราบเป็นระยะ โดยให้บูรณาการร่วมกับ อปท. และประชาชนในพื้นที่ให้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนโยบาย และมาตรการด้านความปลอดภัยทางถนน เน้นการลดปัจจัยเสี่ยงที่เกิดจาก คน ถนน ยานพาหนะ และตรวจสอบสภาพถนน สัญญานไฟจราจร ป้ายจราจรเพื่อให้สามารถลดความสูญเสีย และผลกระทบที่เกิดจากอุบัติเหตุทางถนนได้อย่างแท้จริง