“สามมิตร”ตีจาก พปชร. “ข่าวปล่อย-ข่าวจริง”

30 พ.ย. 2564 | 04:11 น.
อัปเดตล่าสุด :30 พ.ย. 2564 | 11:23 น.

“สามมิตร”ตีจาก พปชร. “ข่าวปล่อย-ข่าวจริง” : รายงานหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3736 หน้า 10 ระหว่างวันที่ 2-4 ธ.ค.2564

ต่างดาหน้าออกมาปฏิเสธกันพัลวัน กับกระข่าวกลุ่ม “สามมิตร” เตรียมทิ้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย (พท.)

 

เริ่มจาก บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ออกมายืนยันว่า "ไม่มี เป็นการปล่อยข่าว เพียงแต่ปล่อยข่าวออกมาเท่านั้นเอง"

ขณะที่ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แกนนำกลุ่มสามมิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว ได้เพียงแต่ "ยิ้ม" เท่านั้น ขณะไปที่ทำเนียบรัฐบาล

 

ส่วน อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพปชร. และหนึ่งในแกนนำกลุ่มสามมิตร ก็ปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง ไม่รู้ว่าใครให้ข่าว ขอให้ไปถามคนที่ให้ข่าว คนที่ปล่อยข่าวน่าจะหวังผลอะไรบางอย่าง ยืนยัน ตอนนี้ไม่มีกลุ่มสามมิตรแล้ว มีแต่คนที่ทำงานการเมืองอยู่พรรคพปชร. และขอย้ำไม่มีแนวคิด เหมือนที่ปรากฏเป็นข่าวอย่างแน่นอน

เช่นเดียวกับ ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกรัฐบาล และอดีตโฆษกกลุ่มสามมิตร ก็ออกมาชี้แจงว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่า กลุ่มสามมิตร นำโดยสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน รวมถึง ส.ส.ในสังกัดกลุ่มสามมิตร ได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าจะไปสังกัดพรรคเพื่อไทยนั้น เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง น่าจะเป็นการปล่อยข่าวจากผู้ที่หวังดีประสงค์ร้ายมากกว่า

 

“ผมได้คุยกับท่านสมศักดิ์อยู่เป็นประจำ เตะฟุตบอลกันบ่อยๆ ท่านสมศักดิ์ยืนยันชัดเจนว่า อยู่กับ“ลุงตู่”อยู่กับพรรคพลังประชารัฐภายใต้การนำของ “ลุงป้อม” ที่สนับสนุน “ลุงตู่”เป็นนายกฯ”

 

ขณะนี้สถานการณ์ของประเทศไทยดีขึ้นเรื่อยๆ การบริหารงานของรัฐบาลก็มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องมากมาย หลายนโยบายทำให้พรรคการเมืองคู่แข่งเกรงกลัวว่าจะเสียคะแนนจนต้องออกมาดิสเครดิตรัฐบาลอยู่หลายครั้งด้วยซ้ำ ที่สำคัญ ท่านสมศักดิ์ยังบอกด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ กระแสนิยมยังไปต่อได้ เพราะท่านนายกฯ เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ 

 

“ผมยืนยันว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าทุกคนจะยังอยู่ช่วยงานท่านนายกฯ ต่อไปอย่างแน่นอน” อดีตโฆษกกลุ่มสามมิตร ระบุ

 

ส่วนท่าทีของ “พรรคเพื่อไทย” ต่อกระแสข่าวกลุ่มสามมิตร รวมถึงบิ๊กเนม จะย้ายกลับมาพรรคเพื่อไทยนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามนโยบายพรรคเปิดกว้างให้กับทุกฝ่าย หากมีอุดมการณ์เดียวกันกับพรรค แต่ต้องเข้ามาอยู่ภายใต้กฎกติกาที่วางไว้ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการพูดคุยโดยตรง แต่ท้ายที่สุดหากใครจะเข้ามาก็ต้องผ่านกระบวนการคัดสรรตามขั้นตอน ไม่มีการลัดคิวให้กับใคร

 

แม้ใครก็ตามจะออกมาปฏิเสธเรื่องการย้ายพรรคของกลุ่ม “สามมิตร” แต่การเมืองในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น คงไม่มีใคร “การันตี” ได้แน่นอน

 

เพราะหลังกติกาการเลือกตั้งมีการปรับเปลี่ยนไปเป็นระบบ “เลือกตั้งบัตร 2 ใบ” ที่เอื้อพรรคใหญ่ได้ประโยชน์น ก็ทำให้ “พรรคเพื่อไทย” ถึงกับออกมาประกาศว่า เลือกตั้งครั้งหน้า “แลนด์สไลด์” แน่นอน

 

ขณะที่ภายใน “พรรคพลังประชารัฐ” เอง สภาพก็เหมือนกับ “แก้วที่ร้าว” ที่รอวันแตกแยก ทางใครทางมัน ทำให้บางกลุ่มคิด “ย้ายพรรค” เพื่อหนีปัญหาความขัดแย้งภายใน พปชร. ที่ถูกซุกไว้ใต้พรม
จึงไม่แปลกที่มีกระแสข่าวกลุ่ม “สามมิตร” คิดย้ายพรรค จะเป็นการ “คิดจริง” หรือ “โยนหินถามถาง” ก็ต้องรอดูกันไป

 

แต่ภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใน “พลังประชารัฐ” ที่ผ่านมา ทำให้มองว่าระหว่าง “กลุ่มสามมิตร” ที่นำโดย สมศักดิ์ เทพสุทิน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ อนุชา นาคาศัย  กับกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ไม่ลงรอยกัน

 

เริ่มตั้งแต่ การเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค พปชร. จาก อนุชา นาคาศัย  มาเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า 
และเกิด “ศึกล้มนายกฯ” ในการโหวตญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ของ “กลุ่มธรรมนัส”  แต่ไม่สำเร็จ เพราะ “กลุ่มสามมิตร” เดินเกมช่วย “ลุงตู่” 

 

กระทั้งเกิดเหตุการณ์ 6 รัฐมนตรีเข้าพบนายกฯ และมีความพยายามเปลี่ยนตัว ร.อ.ธรรมนัส ออกจากเลขาธิการพรรค แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะมี บิ๊กป้อม - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค คอยอุ้มไว้
เพราะเหตุต่าง ๆ เหล่านี้หรือเปล่า ถึงทำให้เกิดกระแสข่าวลือว่า “กลุ่มสามมิตร” คิดจะย้ายพรรค เนื่องจากอำนาจต่าง ๆ อยู่กับ ร.อ.ธรรมนัส ที่มีความเคลื่อนไหวให้เห็นถึงการเตรียมทีมลงเลือกตั้ง ให้ความสำคัญเฉพาะ “ทีมตัวเอง” 

 

แหล่งข่าวระดับสูงในกลุ่มสามมิตร บอกกับทีมข่าวเนชั่นทีวี ว่า ที่ผ่านมา ก็มีหลายพรรคพยายามมาชักชวนให้ย้ายไปร่วม แต่ระดับแกนนำ ก็ต้องวิเคราะห์ให้รอบครอบ เพราะหากจะย้าย ก็ต้องมีโอกาสชนะ 
จากการอ่านเกมของแกนนำกลุ่มสามมิตร การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทย อาจจะไม่ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ที่ต้องยุบพรรคได้ ดังนั้น หากย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะถูกยุบ และแพ้การเลือกตั้งไปด้วย หรือ หากไม่ถูกยุบ ก็ยังติดล็อก 250 ส.ว.ร่วมเลือกนายกฯ อีก

 

ดังนั้น การขนกลุ่มสามมิตร กลับพรรคเพื่อไทย จึงยังไม่ใช่ในขณะนี้ และเร็วไปด้วยที่จะต้องตัดสินใจ เพราะอายุรัฐบาล ยังเหลือกว่า 1 ปี และสมการการเมือง ก็เปลี่ยนตลอด จึงมองว่า การอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้เปรียบทางการเมืองมากกว่า เพราะมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่การเปิดรับดีล ก็เป็นไปตามมารยาททางการเมือง ที่ต้องรับฟังว่า พรรคเพื่อไทย เสนอเก้าอี้อะไรมาให้

 

“เป็นที่น่าสงสัยว่า ในเมื่อแกนนำกลุ่มสามมิตร ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร เพราะยังเหลือเวลากว่า 1 ปี แต่ทำไมถึงมีรายงานข่าวปล่อยออกมาว่า จะย้ายกลับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นความพยายามผลักดันให้ออก จากกลุ่มที่คุมพรรคพลังประชารัฐ อยู่ขณะนี้หรือไม่”  แหล่งข่าวระดับสูงในกลุ่มสามมิตร ระบุ

 

การคิดตีจาก พปชร.ของ “กลุ่มสามมิตร” จะเป็น “ข่าวปล่อย” หรือ เกิดขึ้นจริง ต้องรอดูกันยาวๆ เพราะสถานการณ์ยังมาไม่ถึง และอาจมี “ปัจจัย” อื่นอีกให้ต้องตัดสินใจ...