วันที่ 16 ธ.ค. 2564 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึง กรณีการพักโทษ ลดโทษในคดีทุจริตตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 ที่เป็นประเด็นให้มีการวิพากวิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่าที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ได้มีมติให้ยื่นร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 ต่อสภา เพื่อให้มีการแก้ไขในประเด็นที่สำคัญเช่นรูปแบบโครงสร้างของคณะกรรมการราชทัณฑ์ที่มีความจำเป็นจะต้องแก้ไขเพิ่มเติมให้เป็นคณะกรรมการที่มีความอิสระโปร่งใสและมีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง หลักเกณฑ์การลดวันต้องโทษจำคุก
โดยเฉพาะคดีทุจริตจะมีการกำหนดความสำคัญไว้ให้มีกระบวนการที่รัดกุมและให้มีคณะกรรมการพิจารณาลดวันต้องโทษจำคุกคดีทุจริต โดยมีกระบวนสรรหาคณะกรรมการเช่นเดียวกับองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ให้มีความอิสระที่ทำหน้าที่ในการพิจารณาขั้นต้น หากคดีที่มีคำพิพากษาให้ต้องโทษจำคุก 15 ปีขึ้นไป ต้องส่งไปให้ศาลที่คดีถึงที่สุดพิจารณาการลดวันต้องโทษจำคุก โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์ให้มีการรับโทษมาแล้วกึ่งหนึ่งของโทษที่ศาลได้มีคำพิพากษา เมื่อเข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว ถึงจะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาลดโทษ เช่นเดียวกับคดียาเสพติดที่ร้ายแรง และคดีอื่น ๆ ที่เป็นภัยต่อสังคมอย่างร้ายแรง
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มีการยกร่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าวไว้แล้ว รอการพิจารณาร่วมกันของคณะกรรมการกฎหมายพรรคเพื่อที่จะให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ลงลายมือชื่อเพื่อยื่นต่อสภาต่อไป
ในเรื่องนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคได้มีคำสั่งให้คณะกรรมการกฎหมายของพรรครวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ตั้งแต่ที่มีข่าวเรื่องการลดวันต้องโทษจำคุกของจำเลยในคดีจำนำข้าว ซึ่งถือได้ว่าเป็นคดีที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติเป็นอย่างมากสูญเสียงบประมาณแผ่นดินไปหลายแสนล้านบาท และศาลได้มีคำพิพากษาให้จำคุกบางราย ศาลตัดสินจำคุก 48 ปี ในปี 2560 แต่ขณะนี้ได้มีการลดวันต้องโทษมาหลายครั้งจนท้ายที่สุดปัจจุบันเหลือวันต้องโทษ 10 ปี เป็นการลดวันต้องโทษที่ประชาชนคนไทยใจหายมากที่สุด เหตุเพราะจำเลยแต่ละคนสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างมหาศาล แต่กลับติดคุกจริงเพียงระยะเวลาอันสั้น ตุลาการที่ได้พิพากษาตัดสินไปแล้วก็เกิดความไม่สบายใจ เพราะเมื่อตัดสินไปแล้วไม่มีอำนาจเข้าไปมีส่วนในกระบวนการต่าง ๆ เลย
ข้อเท็จจริงในลักษณะนี้ได้เกิดขึ้นมาแล้วหลายคดี คดีที่ฆ่าผู้อื่นเป็นคดีอุจฉกรรจ์ ตัดสินจำคุก ตลอดชีวิต ท้ายสุดติดคุกจริงไม่กี่ปี ความจริงต่าง ๆ เหล่านี้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขกฎหมายราชทัณฑ์ เพื่อกำหนดกฎเกณฑ์ให้มีความโปร่งใสมีคณะกรรมการที่มีความอิสระและท้ายที่สุดให้ศาลได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดระยะเวลาปลอดภัยให้สังคม ถือว่าเป็นแนวทางที่ดีที่สุด