วันนี้ (18 ธ.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ มีวาระเลือกตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค แทนตำแหน่งที่ว่างลง ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ โดยเป็นการแข่งขันระหว่าง นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา
โดยนายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เสนอชื่อนายเดชอิศม์ ขณะที่นายสินิตย์ เลิศไกร ส.ส.สุราษฎร์ธานี ได้เสนอชื่อนายชินวรณ์
จากนั้นสมาชิกพรรคทั้งที่เป็นส.ส. อดีตส.ส. และกรรมการสาขาพรรค ได้ลงคะแนนโหวตเลือก โดยมีองค์ประชุม 350 เสียง แยกเป็น ส.ส. 48 เสียง ส่วนอื่นๆ 302 เสียง สำหรับกติกาเลือก จะให้น้ำหนัก ส.ส. 70% ส่วนอื่น 30%
ผลการเลือกรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ปรากฏว่า นายเดชอิศม์ ได้รับเลือกด้วยคะแนน ร้อยละ 60 เป็นคะแนน ส.ส. 28 คะแนน องค์ประชุมอื่นๆ 182 คะแนน
ขณะที่นายชินวรณ์ ได้คะแนนร้อยละ 39.1 เป็นคะแนนจาก ส.ส.จำนวน จำนวน 19 คะแนน องค์ประชุมอื่นจำนวน 118 คะแนน และมีผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 0.9%
ส่วนตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค ผู้ที่ได้รับเลือกคือ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช โดยไม่มีสมาชิกคนอื่นลงแข่งขันแต่อย่างใด
สำหรับเส้นทางการเมืองของวรวิทย์ ขาวทอง หรือ "เดชอิศม์ ขาวทอง" เกิดที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ก้าวสู่ถนนการเมืองท้องถิ่น เป็น สจ.สงขลา เขต อ.รัตภูมิ และเป็นนายก อบจ.สงขลา สมัยเลือกทางอ้อม ผู้คนเรียกกันว่า “นายกชาย”
สมัย "เดชอิศม์" เป็น สจ.สงขลา ก็ทำหน้าที่เป็นหัวคะแนนให้ ถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรค ปชป. อีกด้านหนึ่ง "เดชอิศม์ "เคารพนับถือ จองชัย เที่ยงธรรม อดีตรัฐมนตรี และอดีต ส.ส.พรรคชาติไทย โดยสนิทสนมขนาดได้รับอนุญาตให้เรียก “ป๊าจองชัย” ได้
ในการเลือกตั้งปี 2548 "เดชอิศม์" อยากลงสมัคร ส.ส.สงขลา ในสีเสื้อพรรค ปชป. แต่ไม่มีที่ว่าง "เดชอิศม์" จึงไปสวมเสื้อพรรคไทยรักไทย ลงสนามสงขลา เขต 5 แต่ก็พ่าย ประพร เอกอุรุ ตัวแทนของ นิพนธ์ บุญญามณี พรรค ปชป.
ถัดมา ปี 2551 ถาวร เสนเนียม สนับสนุน "เดชอิศม์" ลงชิงนายก อบจ.สงขลา แข่งกับ นวพล บุญญามณี น้องชายนิพนธ์ บุญญามณี ผลปรากฏว่า เดชอิศม์ แพ้ยกแรก
ต่อมา ปี 2552 นวพล บุญญามณี ถูก กกต. แจกใบเหลือง ต้องเลือกตั้งนายก อบจ.ใหม่ “นิพนธ์” ส่ง อุทิศ ชูช่วย ลงสนาม ชนคู่ปรับเก่า “เดชอิศม์ “ เที่ยวนี้ค่าย ถาวร เสนเนียมก็พ่ายซ้ำสอง
หลังพ่ายเลือกตั้ง นายก อบจ.สงขลา 2 ครั้งซ้อน "เดชอิศม์" ก็เดินหน้าทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และช่วยเหลือเพื่อนฝูงตามประสาคน “ใจใหญ่ ใจถึงพึ่งได้”
มาในการเลือกตั้งปี 2562 เดชอิศม์ พยายามเสนอตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรค ปชป. โดยการสนับสนุนของ ถาวร และในที่สุด “นายกชาย” ก็ได้สมใจสวมเสื้อ ปชป.ลงส.ส.
เลือกตั้งปี 2562 พรรคปชป.พ่ายยับในสนาม 14 จังหวัดภาคใต้ แต่ “เดชอิศม์ ขาวทอง” ได้รับเลือกเป็น ส.ส.สมัยแรก และได้คะแนนมากที่สุดในจ.สงขลา
ปลายปี 2563 ถาวร เสนเนียม, นิพนธ์ บุญญามณี และเดชอิศม์ ขาวทอง ร่วมกันสนับสนุน ไพเจน มากสุวรรณ์ ลงชิงนายก อบจ.สงขลา ชน พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ค่ายพลังประชารัฐ แต่ ไพเจน ก็ชนะขาดลอย นอกจากนี้ เดชอิศม์ ยังส่งภรรยา น้ำหอม-สุภาพร กำเนิดผล เข้าไปเป็นรองนายกอบจ.สงขลา คนที่ 2
หลังศึก อบจ.สงขลา ทำให้ "เดชอิศม์" เปล่งบารมีอย่างสูงในสนามการเมืองสงขลา บวกกับการได้รับความไว้วางใจจาก เฉลิมชัย ศรีอ่อน แม่บ้านพรรค ปชป. เขาจึงวางแผนการเมืองในอนาคต โดยวางตัว สุภาพร กำเนิดผล เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 สงขลา หลังถาวร เสนเนียม ถูกตัดสิทธิ์อันเนื่องจากคดีชุมนุม กปปส.
ขณะเดียวกัน “เดชอิศม์” ยังส่งลูกชาย “ศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง” ออกเดินพบปะชาวบ้านในเขต 3 ซึ่งเป็นเขตเดิมของ วิรัตน์ กัลยาศิริ (เสียชีวิตแล้ว) ส่วนลูกชายอีกคนหนึ่งคือ วงศ์วชิระ ขาวทอง เป็น ส.อบจ.สงขลา เขต 1 อ.รัตภูมิ
การเมืองสงขลาวันนี้ ชีวิตของ ถาวร เสนเนียม เสมือนยามตะวันลาลับ แต่ เดชอิศม์ ขาวทอง ไม่ต่างจากยามตะวันรุ่ง
หลัง “นายกชาย” ผงาดคุมทัพภาคใต้ เสริมทีม ปชป. น่าจับตาว่าเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม จะกวาดส.ส.ภาคใต้ได้มากกว่า 22 ที่นั่ง มากน้อยแค่ไหน…