“นิพนธ์”เปิดเวทีรับฟังความเห็นร่างพรบ.ถอดถอนผู้บริหารท้องถิ่น

19 ธ.ค. 2564 | 10:00 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ธ.ค. 2564 | 17:07 น.

“นิพนธ์”เปิดเวทีสัมมนารับฟังความคิดเห็นร่างพ.ร.บ.ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พร้อมรับฟังทุกความเห็นเพื่อมาปรับปรุงร่างกฎหมาย

วันที่ 19 ธันวาคม 2564 ที่โรงแรม ลี การ์เดนส์ พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ. …   เป็นประธานงานสัมมนาเรื่อง "การมีส่วนร่วมของประชาชนด้านการเมืองการปกครอง ในการเข้าชื่อกันเพื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่นหรือเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น" ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ.... สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม เลขานุการคณะกรรมาธิการ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมสัมมนา 
 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องได้รับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับ
ร่าง พ.ร.บ.เข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่นและร่าง พ.ร.บ.ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งกฎหมายทั้ง 2 ฉบับปัจจุบันมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ปี 2542 ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2540 
 

 

แต่กฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2560 ได้บัญญัติไว้ในข้อความที่แตกต่างกัน จึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2560 
 

รัฐบาลจึงได้เสนอกฎหมายดังกล่าวสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏร โดยทั้ง 2 ฉบับผ่านการรับหลักการ และตั้งกรรมาธิการพิจารณาแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว 1 ฉบับ คือร่าง พ.ร.บ.เข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น 
 

ส่วนร่าง พ.ร.บ.ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการซึ่งพิจารณาผ่านวาระแรกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  

นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า การจัดงานสัมมนาครั้งนี้จึงเป็นการรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมาย โดยนำข้อมูลผลการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวมาวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการตรากฎหมายเพื่อนำข้อมูลผลการรับฟังความคิดเห็นไปสู่การทบทวน ปรับปรุง และพัฒนาร่างกฎหมายในเรื่องดังกล่าวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น 

ทั้งนี้ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ถือได้ว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารท้องถิ่นตามหลักการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เนื่องจากผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนภายในท้องถิ่น ประชาชน 


จึงเป็นผู้มีสิทธิในการตรวจสอบการทำงานของผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นให้เป็นไปด้วยความสุจริต โปร่งใส และเป็นธรรม โดยครั้งต่อไปจะขึ้นไปรับฟังความเห็น ในพื้นที่ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย