“วัชระ”ร้องสภาขอความเมตตาช่วยขรก.หญิงที่ถูก“สรศักดิ์”คุกคามทางเพศ

28 ธ.ค. 2564 | 10:11 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ธ.ค. 2564 | 17:18 น.

“วัชระ เพชรทอง” ร้อง “พรพิศ” ขอความเมตตาช่วย “ข้าราชการหญิง” ที่ถูก “สรศักดิ์”คุกคามทางเพศ แล้วยังซ้ำเติมด้วยการตั้งกรรมการสอบวินัยอย่างไม่เป็นธรรม

วันนี้ (28 ธ.ค.64) ที่อาคารรัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านเจ้าหน้าที่งานสารบรรณถึง นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งข้อเท็จจริงให้ทราบกรณีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้าราชการหญิงเป็นนักวิชาการเงินและบัญชี ระดับชำนาญการ สังกัดกลุ่มงานงบประมาณ สำนักการคลังและงบประมาณ ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยนั้น ตนในฐานะอดีตสมาชิกรัฐสภา ผู้ได้รับการร้องเรียนขอความเป็นธรรม ขอแจ้งให้หัวหน้าส่วนราชการของข้าราชการหญิงดังกล่าวทราบว่า 

 

1. กรณีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนดังกล่าวเดิมทีนั้นมีคำสั่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ 179/2563 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ลงวันที่ 27 ม.ค.63 ลงนามออกคำสั่งโดยนายสรศักดิ์ เพียรเวช อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผู้บังคับบัญชาที่กระทำการคุกคามทางเพศต่อข้าราชการหญิงซึ่งเป็นคู่กรณีโดยตรง จึงย่อมเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นปรปักษ์กัน และเป็นการกลั่นแกล้งคู่กรณี 

2. เมื่อได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย และคัดค้านคำสั่งดังกล่าว จึงได้มีคำสั่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ 1383/2563 ลงวันที่ 12 มิ.ย.63 ยกเลิกคำสั่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ 179/2563 และมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดที่ 2 ขึ้นใหม่ ตามคำสั่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่ 1395/2563 ลงวันที่ 15 มิ.ย.63 โดยว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายสรศักดิ์ เพียรเวช ทั้งสิ้น 

 

3. คณะกรรมการสอบสวนยังไม่ได้พิสูจน์ชัดกรณีใบเสร็จรับเงินของโรงแรม เลอ เมอริเดียน จังหวัดเชียงใหม่ เล่มที่ 923 เลขที่ 46213 ลงวันที่ 13 มี.ค.62 รายการค่าอาหารและเครื่องดื่ม ออกโดยคอมพิวเตอร์ เป็นเงิน 150,000 บาท และใบเสร็จรับเงินเล่มที่ 425 เลขที่ 46228 ลงวันที่ 14 มี.ค.62 จำนวน 150,000 บาท ออกโดยเป็นการเขียนด้วยลายมือ ซึ่งข้าราชการหญิงที่ถูกนายสรศักดิ์คุกคามทางเพศได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมสรรพากร ให้พิสูจน์ว่าเป็นใบเสร็จจริงหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีหนังสือตอบจากกรมสรรพากร จึงยังไม่อาจพิสูจน์ข้อเท็จจริง คณะกรรมการฯ จึงไม่อาจวินิจฉัย ลงโทษข้าราชหญิงคนนี้ได้ 

4. กรณีใบเสร็จรับเงินร้านบ้านสวนเล่มที่ ลงวันที่ 14 มี.ค.62 มีการแก้ไขใบเสร็จรับเงินของจำนวนเงินที่เป็นตัวเลขและตัวหนังสือ อัตราค่าอาหารจากอัตรา 50 บาท เป็น 450 บาท และมีการแก้ไขตัวเลขและตัวหนังสือจากจำนวน 147,000 บาท เป็น 187,000 บาท ซึ่งเป็นการใช้ ใบสำคัญสูงเกินจริง 40,000 บาท โดยข้าราชการหญิง ผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดีอาญา เมื่อวันที่ 11 ก.ย.64 ที่สน.บางซื่อ 

 

ดังนั้น เมื่อข้อกล่าวหายังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ยังไม่มีข้อสรุปจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องจึงขอให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการตามกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด และขอให้สั่งการให้คณะกรรมการสอบสวนในประเด็นต่าง ๆ ให้เป็นที่สุดก่อนที่จะด่วนสรุป หรือ มีมติใด ๆ หากได้ลงนามในหนังสือฉบับใดอันเป็นการกระทบต่อสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งของข้าราชการหญิง อาจต้องถูกดำเนินคดีอาญาและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องในอนาคตได้ เพราะถือว่าได้แจ้งข้อเท็จจริงต่างๆ ให้ทราบล่วงหน้าแล้ว 

 

นายวัชระ กล่าวว่า กรณีที่มีการสอบสวนข้าราชการหญิงนั้น เกิดจากกรณีที่ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีคำสั่งให้ข้าราชการหญิงไปปฏิบัติราชการการในการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีที่ปรึกษาของ AIPA ว่าด้วยยาเสพติดอันตราย ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 12-15 มีนาคม 2562 ณ โรงแรม เลอ เมอริเดียน จังหวัด เชียงใหม่ และให้ผู้เสียหายขึ้นไปหาที่ชั้น 19 ห้อง 1915 โดยเขียนส่งข้อความทางไลน์ในเวลา 23.41 น.ของวันที่ 12 มีนาคม 2562 ถึงเวลา 01.08. ของวันที่ 13 มีนาคม 2562  

 

เมื่อถูกปฏิเสธทำให้ นายสรศักดิ์ ผิดหวังทางเพศ เมื่อกลับถึงกรุงเทพมหานคร จึงถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนดังกล่าว กรณีนี้จึงเห็นได้ชัดว่าเกิดจากการคุกคามทางเพศของหัวหน้าส่วนราชการในขณะนั้น และนายสรศักดิ์ ได้ถูกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยมี นายนัท ผาสุข อดีตเลขาธิการวุฒิสภา เป็น

 

ประธานสรุปข้อเท็จจริงว่า นายสรศักดิ์ มีการคุกคามทางเพศผู้ใต้บังคับบัญชาจริงและถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงอยู่ในขณะนี้ จึงขอให้เลขาธิการสภาฯ ให้ความเป็นธรรม รักษาสิทธิสตรี และปฏิบัติตามกฎหมายและธรรมาภิบาล 

 

อนึ่ง กรมกิจการสตรี กระทรวงพัฒนาการและความมั่นคงของมนุษย์เคยมีหนังสือให้คุ้มครองข้าราชการหญิงผู้นี้แล้ว จึงไม่ทราบว่ามีมาตรการคุ้มครองตามมาตรการของมติคณะรัฐมนตรีอย่างไร