เปิดศักราชปี 2565 มา ในทางการเมืองถือได้ว่าเป็น “ปีแห่งการเลือกตั้ง” เพราะจะมีการเลือกตั้งหลายระดับ เริ่มตั้งแต่การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ใน 3 เขต 3 จังหวัด
ตามด้วยการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) สมาชิกสภาเขต (สข.) เลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาเมืองพัทยา
และ/หรือ อาจจะมีการเลือกตั้งส.ส.ทั่วประเทศเกิดขึ้นด้วยก็ได้ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นกับ “รัฐบาลบิ๊กตู่”
การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นก่อนคือ การเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ใน 3 พื้นที่ ประกอบด้วย เขต 6 จ.สงขลา, เขต 1 จ.ชุมพร และ เขตหลักสี่ กทม.
3 สนามเลือกตั้งซ่อมส.ส.
โดยพรรคการเมืองทั้งเก่า และใหม่ ต่างส่งผู้สมัครลงชิงเก้าอี้ ส.ส.ในครั้งนี้
ไปดูที่ สนามเลือกตั้งซ่อมส.ส.สงขลา เขต 6 ประกอบด้วย อำเภอคลองหอยโข่ง, อำเภอหาดใหญ่ (เฉพาะตำบลบ้านพรุและตำบลพะตง) และอำเภอสะเดา (ยกเว้นตำบลสำนักแต้วและตำบลสำนักขาม เลือกตั้งวันที่ 16 ม.ค.2565
พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของเก้าอี้เดิม ส่งผู้สมัคร ส่ง “สุภาพร กำเนิดผล" ลงรักษาที่นั่งเดิมของ ถาวร เสนเนียม ที่ต้องพ้นตำแหน่งไป จะเจอคู่ต่อกรอย่าง อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ จากพรรคพลังประชารัฐ
พรรคก้าวไกล เป็นอีกพรรคที่ส่งผู้สมัครในเขต 6 จ.สงขลา โดยส่ง “ธิวัชร์ ดำแก้ว” ลงสนาม
ส่วนสนามเลือกตั้งซ่อมส.ส.ชุมพร เขต 1 ประกอบด้วย อำเภอเมืองชุมพร (ยกเว้นตำบลวังใหม่ ตำบลบ้านนา ตำบลหาดพันไกร ตำบลบางลึก และตำบลถ้ำสิงห์) และอำเภอสวี (ยกเว้นตำบลเขาทะลุและตำบลเขาค่าย)
พรรคประชาธิปัตย์ ส่ง “อิสรพงษ์ มากอำไพ” เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร หลานชายภรรยา นายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ที่เพิ่งพ้นสภาพจากการเป็น ส.ส. ชนกับ "ชวลิต อาจหาญ" หรือทนายแดง ของพรรคพลังประชารัฐ นอกจากนั้นยังมี ร.ต.ท.สมชาย แพ่งยงยุทธ ผู้สมัครจากพรรคไทยศรีวิไลย์ และ วรพล อนันตศักดิ์ ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล ร่วมชิงเก้าอี้
ส่วนสนามเลือกตั้ง กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร พรรคพลังประชารัฐ เคาะส่ง “สรัลรัศมิ์ เตชะจิรสิน” ภรรยา “สิระ เจนจาคะ” เจ้าของพื้นที่เดิมลงรักษาเก้าอี้ ชนกับ “สุรชาติ เทียนทอง" ลูกชายของ “ป๋าเหนาะ เสนาะ เทียนทอง”
สำหรับ สุรชาติ เทียนทอง ถือเป็นนัด “ล้างตา” เพราะการเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค. 2564 แพ้ให้กับ “สิระ เจนจาคะ” ไปเพียง 2,700 คะแนน เท่านั้น
ครั้งนี้พลังประชารัฐ ถือว่าได้เปรียบในแง่ของการเป็นพรรครัฐบาล ตั้งความหวังเอาไว้ว่าต้องคว้าชัยในทุกเขตเลือกตั้งซ่อม เพราะทุกพื้นที่มีนัยทางการเมืองแฝงอยู่ โดยเฉพาะกระแสนิยมในตัว บิ๊กตู่- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึงคะแนนนิยมของพรรคที่เริ่มลดน้อยถอยลง
ส่วนผู้สมัครพรรคอื่นๆ ก้าวไกล ส่ง “เพชร- กรุณพล เทียนสุวรรณ” บุตรชายของ พล.ต.ต. เทอดพงศ์ เทียนสุวรรณ กับ ประภัสสร พานิชกุล อดีตนางสาวไทย ปี 2509 ลงแข่งขัน
ด้าน พรรคกล้า ของ กรณ์ จาติกวณิช ประเดิมสนามเมืองหลวง ด้วยการส่ง อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค ลงชิงเก้าอี้
ขณะที่ พรรคไทยภักดี ของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส่ง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส่ง “พันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์” เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง อดีตซีอีโอบริษัทหลายบริษัท ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ลงชิงชัย
ทางด้านพรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่แล้ว ส่ง “ผู้การแต้ม” พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ฉายา“มือปราบหูดำ” ลงสนาม แต่ครั้งนี้ยังไม่แน่ว่าประชาธิปัตย์จะส่งใครลง
ความคาดหวังของประชาธิปัตย์ ต้องการคว้าชัยทั้ง 3 เขตเลือกตั้งซ่อม โดยเฉพาะ จ.สงขลา เขต 6 และ จ.ชุมพร เขต 1 ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เก่า ส่วนเขตหลักสี่ กทม. หากประชาธิปัตย์ชิงพื้นที่นี้ไม่ได้ โอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งใหญ่ใน กทม.อาจริบหรี่ลง
"ชัชชาติ-ดร.เอ้"ชิงผู้ว่าฯกทม.
ไปดูสนามเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นราวเดือน “มิถุนายน 2565” ปัจจุบันมีว่าที่ผู้สมัครที่เปิดตัวแล้ว ประกอบด้วย
“ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” อดีต รมว.คมนาคม เจ้าของฉายา “รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” ประกาศลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.2562
“ดร.เอ้-สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ลาออกจากตำแหน่งอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มีผลตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. 2564 และร่วมเปิดตัวกับพรรคประชาธิปัตย์ในวันเดียวกัน
เชื่อว่า “ดร.ชัชชาติ” กับ “ดร.เอ้” 2 คนนี้แหละ ที่จะเป็นคู่ชิง ไม่คนใดก็คนหนึ่งจะได้คว้าเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ไปครอง
นอกจากเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แล้วยังจะมีการเลือกตั้ง สก. และ สข. เกิดขึ้นด้วยสำหรับสนาม กทม.
ขณะเดียวกันยังมีอีกหนึ่งสนามที่จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในปี 2565 นั่นคือ การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาเมืองพัทยา
ทั้งหมดนี้คือ ภาพรวมของการเลือกตั้งทั้งในระดับชาติ และระดับท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า เชื่อว่าแต่ละสนามจะแข่งข้นกันเข้มข้นทีเดียว...