ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2564 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่ บริษัทคิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด ที่ 1 บริษัทคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จํากัด ที่ 2 และ บริษัทคิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จํากัด ที่ 3 ฟ้อง นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองประธานอนุกรรมาธิการคนที่ 2 ของคณะอนุกรรมาธิการศึกษาเสนอแนะมาตรการและกลไกในการปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ในคดีหมิ่นประมาท
คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ระบุตอนหนึ่งว่า คําพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่จําเลยแจกแก่สื่อมวลชน ไม่ปรากฏว่ามีการเสกสรรปั้นแต่งข้อความอื่นนอกเหนือผิดไปจากข้อความในคําพิพากษา อันส่อแสดงให้เห็นเจตนาไม่สุจริตของจําเลย การแถลงข่าวของจําเลยจึงเป็นการรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่จําเลยฟ้องโจทก์ทั้งสามและศาลยกฟ้อง ถือได้ว่าจําเลยแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมเรื่องการดําเนินการโดยเปิดเผยในศาลโดยสุจริต จําเลยจึงได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (4)
ส่วนการที่จําเลยจะอุทธรณ์หรือไปดําเนินการด้วยการทูลเกล้าถวายฎีกา หรือต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อให้มีการตรวจสอบและเอาเงินคืน ก็เป็นเรื่องที่จําเลยแจ้งให้สื่อมวลชนทราบว่าจะดําเนินการต่อไปเท่านั้น มิใช่เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ทั้งสาม
ที่โจทก์ทั้งสามฟ้องว่าจําเลยแถลงต่อสื่อมวลชนหลายครั้งหลายเวลา เป็นการกระทําที่มีเจตนาทุจริต ทําให้โจทก์ทั้งสามเสียหายนั้น เห็นว่า จําเลยเป็นรองประธานอนุกรรมาธิการคนที่ 2 ของคณะอนุกรรมาธิการศึกษาเสนอแนะมาตรการและกลไกในการปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบ จําเลยเข้าไปร่วมตรวจสอบหรือเข้าร่วมประชุมด้วย โดยมีพยานหลักฐานแน่ชัดมีเหตุผลน่าเชื่อถือ ล้วนแต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับงานของจําเลยทั้งสิ้นไม่ว่าเรื่องที่จําเลยแถลงต่อสื่อมวลชนจะเป็นความจริงแท้แน่นอนหรือไม่ก็ตาม
แต่จากพยานหลักฐานทําให้จําเลยมีเหตุผลอันสมควรเชื่อเช่นนั้นโดยสุจริตว่า คําแถลงของตนเป็นความจริงโดยเฉพาะเรื่องที่จําเลยแถลงต่อสื่อมวลชนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของสาธารณะ ถือว่าเป็นเรื่องสําคัญอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อส่วนรวม ในฐานะที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) เดิมเป็นรัฐวิสาหกิจต่อมาได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจํากัด มีหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หากมีความเสียหายเกิดขึ้นก็เท่ากับหน่วยงานของรัฐ หรือประเทศชาติได้รับความเสียหายไปด้วย
การร่วมกันรักษาปกป้องประโยชน์ส่วนร่วมของประเทศย่อมเป็นหน้าที่พลเมืองดีด้วย การแถลงแก่สื่อมวลชนของจําเลยเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรม ทั้งเป็นการป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจําเลยฟังขึ้น
สําหรับอุทธรณ์ข้ออื่นของจําเลย รวมทั้งอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสามที่ ขอให้ลงโทษจําเลยสถานหนักและนับโทษต่อ จึงไม่จําต้องวินิจฉัยอีกต่อไป
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งสาม
คลิกอ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม : คำพิพากษาศาลฟ้องคิงเพาเวอร์ฟ้องชาญชัย อิสระเสนารักษ์