ปัญหาปากท้องของประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ของแพง ส่วนทางกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่มีจุดสิ้นสุด ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ฉายภาพให้เห็นมากขึ้น กำลังบั่นทอนคุณภาพชีวิตและความหวังของคนไทย ปัญหานี้นำไปสู่ประเด็นการเมืองที่ร้อนแรงขึ้น การเปิดตัวของพรรคการเมืองใหม่ๆ เป็นจุดดึงดูดความสนใจของประชาชนไม่น้อย
การเปิดตัวและการประกาศเจตนารมณ์ของพรรคสร้างอนาคตไทย สิ่งที่ต้องจับตาหลังจากนี้คือจะสร้างแรงกระเพื่อมทางการเมืองมากน้อยแค่ไหน ในสถานการณ์ที่รัฐบาลถูกวิพากวิจารณ์การทำงานอย่างหนัก
สิ่งสำคัญก็คือผู้ร่วมก่อตั้งเป็นอดีตทีมเศรษฐกิจของพลเอกประยุทธ์ จันโอชา ที่บอกว่าจะเน้นการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนในสถานการณ์เศรษฐกิจถดถอยแบบนี้
ความเคลื่อนไหวการตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย โดยแกนนำสำคัญคือ นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ทั้งคู่อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า “สี่กุมาร” ถูกจับตามองว่าจะดึงใครมาร่วมองคาพยพและอุดมการณ์กู้วิกฤติบ้านเมือง โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ที่กำลังรุมเร้ารัฐบาล
“วันนี้เรามาประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันแก้ปัญหาและสร้างอนาคตไทย และจะไม่ได้เป็นแค่พรรคการเมือง แต่เป็นพื้นที่เปิด รวบรวมกลุ่มคนหลากหลายสาขาอาชีพในทุกภาคส่วน ร่วมระดมความคิดเห็น ช่วยกันคิด ช่วยกันทำเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ ฟื้นฟูประเทศ ซึ่งสถานการณ์ประเทศน่าเป็นห่วง ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ปัญหาปากท้องและโรคระบาดโควิด ที่เราออกจากรัฐบาล เรามีโอกาสพบเจอผู้คนมากมาย ได้รับฟังเสียงสะท้อน ความต้องการที่อยากเห็นสมการเมืองที่เปลี่ยนแปลง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง ขอเรียนว่าเราจะไม่ซ้ายสุดขั้ว ไม่ขวาสุดโต่ง ไม่โกง ไม่ปล้นชาติ อาสาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนไทย ผมขอถือโอกาสนี้ เชิญประชาชนทุกคนมาสร้างอนาคตไทยด้วยกัน” อุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าว
นอกจากจุดยืนเรื่องเศรษฐกิจแล้ว อีกจุดยืนของพรรค รวมไปถึงการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีกสมัย เป็นสิ่งที่ถูกตั้งคำถามขึ้น
“ยืนยันว่าพรรคจะไม่เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ใช่พรรคนอมินี หรือพรรคอะไหล่ของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยพรรคมีกระบวนการในการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมเป็นแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 รายชื่อ” สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว
ภายหลังจากการเปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย ในวันเดียวกันนี้ พรรคพลังประชารัฐมีมติขับ 21 ส.ส. รวมถึงร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัสเรียกร้อง ในสิ่งที่พรรคไม่สามารถดำเนินการได้ โดยเสนอให้ปรับโครงสร้างพรรคใหม่ พร้อมบอกว่าถ้าไม่ได้ก็ไม่ยอม ถ้าพรรคไม่ปรับตามที่เสนอก็จะเคลื่อนไหวต่างๆ
นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความเข้มข้นทางการเมืองที่หลายคนจับตาว่าจะคึกคัก แต่สิ่งสำคัญคือ พรรคสร้างอนาคตไทย จะเป็นตัวเลือกใหม่และความหวังใหม่ทางการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริงได้หรือไม่ เมื่อเทียบกับทีมเศรษฐกิจของพรรคการเมืองอื่นๆ