นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตแกนนำ กปปส. โพสต์เฟสบุ๊ค วิเคราะห์ผลคะแนนเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร โดยระบุว่า
เห็นหลายคนออกมาวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ ว่า ความนิยมของ พลเอกประยุทธ์ ถึงจุดตกต่ำ เพราะคะแนนรวมของฝั่งที่ไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์มากกว่าแบบมีนัยยะบ้าง พลเอกประยุทธ์ไปต่อไม่ไหวบ้าง ตนขออนุญาตเห็นแตกต่าง และจะวิเคราะห์ ให้ฟัง ถ้าย้อนกลับไปดูผลการเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2562 นับเฉพาะ 4 พรรคใหญ่ คือ ปชป. พปชร. อนค. (ก้าวไกลขณะนั้น) และ พท. ก็จะพบว่าถึงแม้ ส.ส. จะเป็นของ พปชร. แต่คะแนนรวมของ ปชป. + พปชร. ก็น้อยกว่าคะแนนของ พท. + อนค. อยู่หลายพันคะแนนอยู่แล้ว โดยที่ผู้ออกมาใช้สิทธิ์ ณ วันนั้นตัวเลขกลมๆ อยู่ที่ประมาณ 74%
ทีนี้กลับมาดูเมื่อวานครับตัวเลขผู้ใช้สิทธิ์อยู่ที่ 52% น้อยกว่าการเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2562 ถึง 22% ซึ่งตีเป็นจำนวนคนได้ประมาณ 39,000 คนกลมๆ ที่ไม่ได้ออกมาใช้สิทธิ์เท่าปี 2562 ทีนี้ตัวเลขดังกล่าวบอกอะไรเราได้ แน่นอนว่า นักเลือกตั้งทั้งหลายจะทราบดีว่าความสำคัญของการเลือกตั้งซ่อมกับการเลือกตั้งทั่วไปความคึกคักและตื่นตัวของผู้ออกไปใช้สิทธิ์ย่อมแตกต่างกันอยู่แล้วโดยเฉพาะในสนามกรุงเทพมหานคร ย่อมแตกต่างจากจังหวัดอื่น
ดังนั้นคะแนนที่เรียกว่าคะแนนจัดตั้งจึงมีผลอย่างยิ่งโดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่มีความผสมผสานกันระหว่างกลุ่มบ้านรั้วบ้านหลังและชุมชนในปริมาณที่เท่าๆกันแบบเช่นเขตเลือกตั้งนี้ คะแนนในกลุ่มที่จัดตั้งมักจะออกไปใช้สิทธิ์แน่นอน ส่วนกลุ่มที่เป็นบ้านรั้วบ้านหลังเนื่องด้วยอาจจะเห็นเป็นแค่การเลือกตั้งซ่อมหรืออาจจะมีความเบื่อหน่ายทางการเมืองก็เลยไม่ออกไปเลือกตั้ง รวมถึงการไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า
ลองมาดูคะแนนเมื่อวาน ไทยภักดี + กล้า + พปชร. ได้คะแนนน้อยกว่า พท. + กก. ประมาณ 15,000 คะแนนกลมๆ ซึ่ง trend ก็ไม่ได้แตกต่างไปมากจากการเลือกตั้งใหญ่ปี 2562 ครับ โดยผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไม่ได้ออกมาใช้สิทธิ์เท่าปี 2562 ถึง 39,000 คน ดังนั้นการจะบอกว่าความนิยมของพลเอกประยุทธ์ตกต่ำมาก ก็ดูจะไม่เป็นธรรมเท่าไหร่ ถ้าถามส่วนตัวว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนอะไรได้บ้าง ตนบอกเลยว่า พท. คะแนนนิยมในเขตนี้คงที่แทบไม่ได้มีความแตกต่างไปจากเดิมแต่ความนิยมของ พปชร.ลดลงอย่างน่าตกใจ เพราะคะแนนหายไปจากการเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2562 ถึงประมาณ 27,000 คะแนน ซึ่งเหตุผลเป็นเพราะอะไร ก็คงไม่ต้องพูดถึง เพราะคนในพื้นที่ก็รู้ดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้สมัคร หรือ สาเหตุของการที่ทำให้เราต้องกลับมาเลือกตั้งใหม่ หรือ อาจจะเป็นปัญหาใน พปชร. เองก็ตาม
แต่จุดที่ต้องระวังก็คือ 39,000 คะแนนที่ไม่ได้ออกมาใช้สิทธิ์ในคราวนี้ ซึ่งตนมองว่าส่วนใหญ่เคยเลือก พปชร. เยอะมาก อาจจะไม่กลับมาทางฝั่งของ พปชร. อีกถ้าไม่เร่งปรับหรือทำอะไรซักอย่าง ผลการเลือกตั้งใหญ่ข้างหน้าในอนาคตในเขตนี้ก็คงไม่แตกต่างไปจากนี้ แถมยังอาจจะลามไปทั่วทั้ง กทม. พร้อม ยินดีกับนายสุรชาติ แต่ยังเชื่อว่า พท.ยังไม่ landslide และ กก. ยังน่ากลัว