"บิ๊กตู่"ห่วงคนไทยใน"ยูเครน" สั่งทุกหน่วยงานช่วยเหลือให้ดีที่สุด

25 ก.พ. 2565 | 08:24 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.พ. 2565 | 16:11 น.

นายกฯ ห่วงคนไทยใน"ยูเครน"สั่ง กต.หน่วยงานหลักช่วยเหลือ- ประเมินสถานการณ์ต่อเนื่อง กำหนดแผนอพยพให้ความช่วยเหลือ กำชับทุกหน่วยงานร่วมดูแลให้ดีที่สุด

วันที่ 25 ก.พ. 2565  นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมห่วงใยต่อสถานการณ์ความรุนแรงใน "ยูเครน"ซึ่งมีความตึงเครียดสูงขึ้น และเสี่ยงต่อความปลอดภัยของคนไทยในยูเครน จึงได้สั่งการอย่างใกล้ชิด ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยมีกระทรวงการต่างประเทศ (กต.)เป็นหลักในการวางแผนให้ความช่วยเหลือคนไทย เตรียมพร้อมให้เท่าทันสถานการณ์ 

 

“นายกรัฐมนตรีห่วงใยคนไทยที่ยูเครน สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีกระทรวงการต่างประเทศเป็นหลัก ดำเนินการดูแล ช่วยเหลือคนไทย ประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และกำหนดแผนให้ความช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัย ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ โดยขอให้ทุกหน่วยงานดูแลคนไทยให้ดีที่สุด” นายธนกร กล่าว
 

สำหรับการวางแผนให้ความช่วยเหลือคนไทย มีความคืบหน้าล่าสุดดังนี้

 

นับตั้งแต่วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2565) สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ได้จัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน (เมืองลวิฟ)” โดยจะใช้โรงแรม Цісар หรือ Tsisar เป็นศูนย์หลัก (ที่อยู่ Horodotska St, 65, Lviv, Lviv Oblast, Ukraine, 79000) ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ไปประจำ เพื่อใช้เป็น (1) ที่พักชั่วคราวของคนไทยในยูเครน และ (2) ศูนย์ประสานงานกับฝ่ายยูเครนในการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

ทั้งนี้ เมืองลวิฟจะเป็นฐานในการรวบรวมคนไทยในยูเครนจากพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นการชั่วคราว เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย (จากเมืองลวิฟหรือเข้าโปแลนด์) หรือเดินทางกลับที่อยู่อาศัย ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความปลอดภัยในยูเครน ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตได้ประสานกับคนไทยอย่างต่อเนื่อง จัดหารถไปรับคนไทยมายังเมืองลวิฟ เพื่อให้มั่นใจว่าคนไทยที่ต้องการจะเดินทางมาเมืองลวิฟสามารถเดินทางมาได้เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์มีความไม่แน่นอนสูง และในระหว่างนี้ ได้ขอให้นายจ้างดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของลูกจ้างคนไทยอย่างเต็มที่ทั้งเตรียมอาหาร สิ่งของจำเป็น และเอกสารสำคัญ ซึ่งรวมถึงการหายานพาหนะที่สามารถหาได้กรณีจำเป็นกรณีต้องพาลูกจ้างออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย

 

นายธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการให้ความช่วยเหลืออาจจะต้องปรับแผนให้เหมาะสม เนื่องจากมีคำสั่งปิดน่านฟ้า จึงอาจจะทำให้ไม่สามารถใช้เครื่องบินบินออกจากยูเครน จึงอาจต้องพิจารณาแผนอื่นๆที่ได้เตรียมไว้ เช่น การเช่าเครื่องเหมาลำจากโปแลนด์หรือประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป แล้วบินกลับมายังไทย หรือการนำเครื่องบินจากไทยบินไปรับ ซึ่งทั้งหมดนี้กระทรวงการต่างประเทศจะได้ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือคนไทยในยูเครนตามบัญชานายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่

 

อนึ่ง ขอให้ผู้ที่พำนักอาศัยในยูเครนติดตามสถานการณ์และข่าวสารอย่างใกล้ชิด ทั้งทาง Facebook สถานเอกอัครราชทูตฯ กลุ่ม LINE ระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับชุมชนไทยในยูเครน และกลุ่ม Telegram ระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับเจ้าของร้านสปาไทย ชาวยูเครน เพื่อการประสานงานกันอย่างทันท่วงทีกรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย โดยมีหมายเลขสายด่วน +48 696 642 348 (ตลอด 24 ชั่วโมง)