วันที่ 28 ก.พ.2565 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงว่า ป.ป.ช.มีมติ เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ชี้มูลความผิด นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกับพวก กรณีรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อันไม่ควรได้ตามกฎหมาย
โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า ปี 2555 นายจารุพงศ์ กับพวก เดินทางไป-กลับ กทม.-ปักกิ่ง ประเทศจีน ด้วยสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ ชั้นธุรกิจ ตกราคาที่นั่งละ 39,000 บาท ต่อมาปี 2556 เดินทางไป-กลับ กทม.-กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ด้วยสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ชั้นธุรกิจ ตกราคาที่นั่งละ 20,000 บาทเศษ รวมมูลค่าที่ได้รับไปเกือบ 6 หมื่นบาท
จากการไต่สวนพบว่า นายจารุพงศ์ กับพวก มีการเรียกเก็บค่าตั๋วจากบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรืออีสท์ วอเตอร์ ทั้งที่นายจารุพงศ์ไม่มีความเกี่ยวข้อง หรือความสัมพันธ์โดยตรง หรือควบคุมดูแลบริษัทดังกล่าว เนื่องจากบริษัทแห่งนี้มิใช่รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ แม้ว่านายจารุพงศ์เป็นรมว.มทโดยตามกฎหมายจะรักษาการประธานบอร์ดการประปา ขณะที่อีสต์ วอเตอร์ มีการประปาเข้าไปถือหุ้นก็ตาม แต่ถือแค่ 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ดังนั้น ทำให้การประปาไม่เกี่ยวกับอีสต์ วอเตอร์ และนายจารุพงศ์ ไม่สามารถเรียกเงินดังกล่าวได้ ป.ป.ช.จึงฟังได้ว่า นายจารุพงศ์ รับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดเกินกว่า 3 พันบาท ตามระเบียบ หรือประกาศของ ป.ป.ช. มีมูลความผิดตามพ.ร ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 103 มีโทษสูงสุดจำคุก 3 ปี ปรับ 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยความคืบหน้าขณะนี้ได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการต่อไป