วันที่ 9 มี.ค.65 นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ประธานคณะกรรมการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศพรรคไทยสร้างไทย ในฐานะอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกร้องรัฐบาลเร่งสื่อสารข้อมูลให้ประชาชนรับทราบถึงแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิดรูปแบบใหม่หรือ "เจอ แจก จบ" ที่จะเน้นให้ผู้ติดเชื้อที่มีอาการไม่มากหรือ“กลุ่มสีเขียว”รับยาจากโรงพยาบาลไปรักษาตัวเองที่บ้านโดยไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเหมือนระบบเดิม เพื่อลดภาระของโรงพยาบาลและค่าใช้จ่ายภาครัฐ
เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19ขณะนี้พบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นระดับ 4 ถึง 5 หมื่นรายต่อวัน แต่กลับปรากฎว่ารัฐบาลไม่สามารถสร้างความเข้าใจกับประชาชนถึงขั้นตอนในการเข้ารับการรักษารูปแบบใหม่ได้ จึงสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะวิกฤตในระบบสาธารณสุข อย่างเช่นที่กลุ่มแพทย์ชนบทพยายามสะท้อนถึงปัญหาในภาคปฎิบัติ โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์เรื่อง “เจอแจกจบ”แก้โควิดของรัฐบาล ที่ถือว่าเข้าขั้นสอบตก เพราะพบว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่รับรู้ถึงขั้นตอนในการเข้าสู่ระบบการรักษาที่ดีพอ
"เมื่อพบว่าตัวเองติดเชื้อก็จะรีบโทรเข้าสายด่วน สปสช. 1330 ไว้ก่อน แต่กลับพบว่าส่วนใหญ่โทรไม่ติดหรือโทรติดแต่เจ้าหน้าที่บอกให้รอสายไว้ก่อนแล้วจะโทรกลับ แต่สุดท้ายก็ไม่มีการโทรกลับมา คงเป็นเพราะแต่ละวันมีประชาชนโทรใช้บริการเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นถ้ารัฐบาลสามารถอธิบายให้ประชาชนเข้าใจถึงวิธีการเข้ารับการรักษาได้ดีพอหรือทั่วถึงพอ คนก็จะลดการโทรเข้าสายด่วน สปสช. 1330 ไปเอง ภาระก็จะไม่ตกหนักอยู่กับเจ้าหน้าที่ผู้รับสายเช่นนี้"
นายต่อพงษ์กล่าวต่อว่าก่อนหน้านี้พรรคไทยสร้างไทยได้ให้ความเห็นและเตือนไปถึงรัฐบาลว่าต้องควบคุมการระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขยายวงกว้าง แต่ในที่สุดการระบาดก็กลับมาหนักอีกครั้ง ดังนั้นรัฐบาลไม่ควรชะล่าใจคิดแต่เพียงว่าโควิดโอมิครอนแม้จะติดเชื้อมากแต่มีผู้เสียชีวิตน้อย เพราะหากผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาล่าช้าหรือไม่ทั่วถึง
"โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางหรือผู้สูงวัย ก็อาจจะทำให้เข้าสู่อาการผู้ป่วยหนักและมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดของรัฐบาลเองไม่ใช่ผู้ป่วยดูแลตัวเองไม่ดี"
"รัฐบาลจะต้องทำให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจเชื้อโควิด-19ได้ง่ายและรวดเร็ว เพื่อแยกผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการดูแลรักษาแบบใหม่ "เจอ แจก จบ" ซึ่งหากล่าช้าผลกระทบอาจยาวนานไปถึงช่วงสงกรานต์ นอกจากนี้รัฐบาลยังไม่ได้สื่อสารถึงสายพันธุ์ BA.2 ที่มีการแพร่ระบาดได้รวดเร็วขึ้น ดังนั้นจึงควรรีบบอกข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับรู้ทั้งเชื้อกลายพันธุ์ตัวใหม่และขั้นตอนการเข้าสู่ระบบการรักษาแบบใหม่
จึงอยากถามว่าตอนนี้รัฐบาลมี ศบค.ไว้ทำไม ทำไมจึงไม่ใช้ ศบค.ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงเรื่องเหล่านี้ หากมีไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรอีก ก็ควรจะเลิกไปเสียทั้ง ศบค.และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" นายต่อพงษ์กล่าว