วันที่ 20 มี.ค.65 พรรคเพื่อไทย จัดงาน ‘ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม’ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ มลฑาทิพย์ ฮอลล์ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมีผู้บริหาร ส.ส. จากหลากหลายจังหวัด รวมทั้งสมาชิกพรรค เข้าร่วมกิจกรรมกันเป็นจำนวนมาก นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม บรรยากาศเป็นอย่างคึกคัก
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ "อุ๊งอิ๊ง"ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ในช่วงที่ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ในขณะนั้นตนอายุ 12 ปี จนรัฐบาลที่นำโดย ดร.ทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ถูกคณะรัฐประหารยึดอำนาจ ตนเป็นเพียงผู้เฝ้ามอง ไม่ได้มีส่วนร่วมในทางการเมือง ได้รับรู้ว่าเส้นทางของพรรคการเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นผู้ได้รับผลกระทบด้วย
แต่ปัจจุบันพรรคเพื่อไทยเติบโต เปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด ฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย แม้หลายคนจะไม่ได้อยู่ในแวดวงการเมืองและย้ายบ้านไปบ้าง แต่ยังมีหลายคนที่ยังอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้ อยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน ครอบครัวเพื่อไทย
นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยมีต้นทุนที่สำคัญที่สุด คือ ประสบการณ์การเป็นรัฐบาลมาหลายยุค เป็นจุดเด่นที่พรรคเพื่อไทยมีมากกว่าพรรคอื่น เป็นพรรคการเมืองที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยพรรคเดียวหลายสมัย
พร้อมยอมรับว่าที่ผ่านมามีประสบการณ์ทั้งดีและร้าย พรรคเพื่อไทยพร้อมนำมาเป็นบทเรียนเพื่อทำปัจจุบันและอนาคตที่ดีกว่า ประสบการณ์ของรัฐบาลไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย ทำให้ตนได้เรียนรู้ว่าถึงเวลาแล้วที่พรรคเพื่อไทยจะต้องเปลี่ยนแปลงในเพื่อปรับตัวให้ทันกับความต้องการของพี่น้องประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไป ต้องเป็นพรรคเพื่อไทยในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าโดยที่จะไม่มีทางลืมประชาชนที่สนับสนุน ต้องอยู่อย่างแข็งแกร่งและอยู่รอด เพื่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นความหวังของประชาชนอีกครั้ง ภายใต้เป้าหมาย 2 ประการ ได้แก่
ประการแรก สร้างการมีส่วนร่วมให้คนหลายรุ่นได้มาทำงานร่วมกัน เพื่อหาตรงกลาง ตอบสนองความต้องการของคนทุกรุ่นให้ได้มากที่สุด เช่น การศึกษานโยบายผ้าอนามัยฟรีถ้วนหน้า ถือเป็นตัวอย่างของความสำเร็จจากการร่วมมือของคนหลายรุ่นที่มีความถนัดแตกต่างกัน มีบุคลากรที่มีประสบการณ์ในการเป็นรัฐบาลจริง
และมีบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีมุมมองความสนใจที่หลากหลาย เป็นการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของเรา และพัฒนาจุดอ่อน โดยที่ยังคง DNA เรื่องเศรษฐกิจ และปากท้องไว้ เพิ่มมิติทางด้านอัตลักษณ์ให้กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว
2.เราต้องเป็น แกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ระบอบเผด็จการต้องหมดไป โดยการเตรียมความพร้อมเอาไว้ หากไม่สามารถสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นโยบายจะดีแค่ไหน จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ อำนาจรัฐเท่านั้นที่จะเป็นทางออกในเวลานี้
นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยต้องสร้างการมีส่วนร่วมกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุดผ่านโครงการครอบครัวเพื่อไทย เหมือนกับที่ในสมัยไทยรักไทย มีสมาชิกพรรคกว่า 14 ล้านรายชื่อ ไม่มีใครทำลายสถิตินั้น แต่เมื่อถูกยุบพรรค สมาชิกทั้งหมดถูกยกเลิกไป และเมื่อมีการรัฐประหารในปี 2557 มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทำให้การมีส่วนร่วมระหว่างพรรคการเมืองและพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องยาก
ดังนั้น กิจกรรม 'ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม' จึงเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชนอย่างไม่ผูกมัด ไม่มีเงื่อนไขทางกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อไปสู่เป้าหมายการเลือกตั้ง แลนสไลด์ทั้งแผ่นดิน เราพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งอีกครั้งเมื่อถึงเวลา และ 14 ล้านเสียงในช่วงพรรคไทยรักไทย จะเกิดขึ้นอีกในครั้งนี้