วันนี้ (23 มี.ค.65) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) ในครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการเตรียมการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมาก็ได้เตรียมเรื่องสำคัญ 3 เรื่อง
เรื่องแรก การเตรียมนโยบายเพื่อการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และนโยบายเพื่อใช้ในการบริหารกรุงเทพมหานคร หากได้รับความไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ ไม่ว่าจะในฐานะผู้ว่าฯ กทม. หรือ ใน ส.ก. ซึ่งการดำเนินการตามนโยบายนั้น ได้มีการทำอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ตามหลักวิชาการ มีการดำเนินการหลายส่วน จนสำเร็จลุล่วง
เมื่อพรรคได้ผู้ที่จะสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. และมีการเตรียมการนโยบายมาแล้วระดับหนึ่ง จึงได้นำนโยบายทั้งสองส่วน ซึ่งบางเรื่องคล้ายคลึงกัน และบางเรื่องต่างกัน มาผสมผสานให้เป็นนโยบายที่จะใช้ในการใช้รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และใช้ในการบริหารราชการกรุงเทพมหานคร
เรื่องที่ 2 ตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ได้พิจารณาผู้สมัครรับเลือกตั้งในฐานะที่เป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร และผู้ที่จะมาเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. จึงได้ดำเนินการพิจารณาคัดสรรบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ทั้ง 50 เขต 50 คน ที่จะเป็นผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร รวมทั้งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ดร.เอ้ ศ.ดร.สุชัชวีร์สุวรรณสวัสดิ์ ซึ่งได้มีการเปิดตัวไปประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งผู้สมัคร ส.ก. ก็ได้มีการเปิดตัวไปแล้วเช่นเดียวกัน
ดังนั้น ในส่วนบุคลากรที่จะทำหน้าที่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง รวมทั้งจะได้ไปทำงานในฐานะผู้ว่าฯ กทม หรือ ส.ก. ต่อไป
เรื่องที่ 3 ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญ คือ การเตรียมการบริหารจัดการการเลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งเป็นภารกิจที่มีความสำคัญมาก เพราะจะเป็นองคาพยพที่สำคัญที่จะช่วยมีส่วนอย่างสำคัญในการบริหารจัดการให้การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประสบความสำเร็จ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้เตรียมการเรื่องนี้มาแล้วระดับหนึ่งอย่างต่อเนื่อง
โดยมีการทำงาน ในหลากหลายรูปแบบหลากหลายมิติ เพื่อให้การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเป็นไปอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และนำมาสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง ซึ่งทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งก็ต้องถือว่าเป็นการแข่งขันที่มีความสำคัญโดยเฉพาะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. จะมีการเลือกตั้งพร้อมกัน ซึ่งจะทำให้ยิ่งมีงานที่จะต้องทำมากขึ้นไปพร้อมกันหลายงาน พรรคประชาธิปัตย์จึงต้องพิจารณาทีมงานที่มีความเหมาะสมในการมาทำงานในศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม และ ส.ก. ของพรรค
ดังนั้น ทางหัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และเลขาธิการพรรค ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รวมทั้งกรรมการบริหารพรรคได้มีการพิจารณาเพื่อหาบุคคลที่มีความเหมาะสมที่จะมาทำหน้าที่ในการเป็นผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. และมีความเห็นพ้องต้องกันว่าผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม และ ส.ก. คือ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์
นายองอาจ กล่าวว่า คุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ เป็นบุคคลที่มีความสำคัญของพรรค ในการช่วยกันทำงานขับเคลื่อนพรรคในหลากหลายรูปแบบ แต่คุณสมบัติที่สำคัญที่พรรคเห็นว่ามีความเหมาะสมในการทำหน้าที่ ผอ.ศูนย์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. นั้น ประกอบด้วย 3 ประการ
ประการที่ 1 ปริญญ์ พานิชภักดิ์ เป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีหน้าที่ที่จะมีส่วนร่วมในการบริหารพรรค และเครือข่ายของพรรคอีกจำนวนมาก และมีหน้าที่เฉพาะที่รับผิดชอบคือการเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย ซึ่งมีความสอดคล้องกับปัจจุบัน ที่เราต้องการจะขับเคลื่อนการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งและการทำงานในฐานะที่เป็นผู้ว่าฯ กทม และ ส.ก. ซึ่งจะมีเรื่องเศรษฐกิจทันสมัยเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
ประการที่ 2 ปริญญ์ พานิชภักดิ์ เป็นถือว่าเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ มีอุดมการณ์ทันสมัยตรงกับแนวทางอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ มีความพร้อมที่จะทำงานในการขับเคลื่อนภาระหน้าที่อันสำคัญในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครในครั้งนี้
ประการที่ 3 ปริญญ์ พานิชภักดิ์ เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการการเลือกตั้งด้วยกลยุทธ์ที่ทันสมัยสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยในปัจจุบัน และถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะการเลือกตั้งวันนี้ไม่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ที่เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน และตลอด 10 ปีที่ผ่านมาก็มีความเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร และการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
“3 ประการนี้ เป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่พรรคประชาธิปัตย์ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า คุณปริญญ์ พานิชภักดิ์มีความเหมาะสมที่จะมาทำหน้าที่ขับเคลื่อนการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งให้ไปสู่ชัยชนะ และนำไปสู่ความสำเร็จได้ โดยจะได้มาเป็น ผู้อำนวยการศูนย์การเลือกตั้งผู้ว่า กทม. และ สก. ของพรรคประชาธิปัตย์” นายองอาจกล่าว
นอกจากนี้ยังมีทีมงานที่จะช่วยกันทำงานขับเคลื่อนไป พร้อมๆ กับอาสาสมัครและบุคลากรอีกจำนวนมาก ซึ่งจะมาช่วยกันขับเคลื่อนการทำงานให้ประสบความสำเร็จ จึงมีการตั้งรองผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม และ ส.ก. ขึ้น จำนวน 9 คน ประกอบด้วย
- ม.ล.อภิมงคล โสณกุล รองผู้อำนวยการศูนย์ ฝ่ายยุทธศาสตร์เลือกตั้ง ซึ่ง ม.ล.อภิมงคล นั้นเป็นอดีต ส.ส. กทม. ของพรรคมาหลายสมัย และยังช่วยทำงานในพรรคอย่างต่อเนื่องตลอดมา ถือว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์การเลือกตั้งในครั้งนี้
- ดร.ธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ รองผู้อำนวยการศูนย์ ฝ่ายนโยบายและแผน และเป็นผู้รับผิดชอบร่วมกับทีมงานเพื่อดูแลนโยบายของ กทม. มาโดยตลอด
- นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน รองผู้อำนวยการศูนย์ ฝ่ายปฏิบัติการณ์เลือกตั้ง ซึ่งเป็นอดีต ส.ส. กทม. มีความเชี่ยวชาญและความรู้ความสามารถในการจัดการเลือกตั้ง กทม.
- พล.ต.ต. ดร.วิชัย สังข์ประไพ รองผู้อำนวยการศูนย์ ฝ่ายมวลชนสัมพันธ์หรือประสานงานมวลชน ถือว่าเป็นนายตำรวจที่ได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชน และเป็นกำลังสำคัญของพรรคในการขับเคลื่อนงานใน กทม. อย่างต่อเนื่องตลอดมา
- นายเกียรติฟ้า เลาหะพรสวรรค์ รองผู้อำนวยการศูนย์ ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งเป็นอดีต ส.ก. ของพรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย ปัจจุบันเป็นนักกฎหมาย และกำลังจะจบปริญญาเอกด้านกฎหมาย จึงมาช่วยดูแลงานด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้
- ผศ.ดร. เจนจิรา รัตนเพียร รองผู้อำนวยการศูนย์ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในเรื่อง IT ที่จะมาช่วยร่วมขับเคลื่อนงานสำคัญไปด้วยกัน
- ว่าที่ ดร. ดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองผู้อำนวยการศูนย์ ฝ่ายการสื่อสาร ซึ่งเป็นรองโฆษกพรรค ได้ช่วยทำงานด้านการสื่อสารของพรรคมาอย่างต่อเนื่อง จึงจะได้มาช่วยกันเติมเต็มการทำงานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการณรงค์หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่า กทม. และ สก.
- นายอภิมุข ฉันทวานิช รองผู้อำนวยการศูนย์ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ เป็นอดีต ส.ก. หลายสมัย เป็นคนหนุ่มที่มีความรู้ความสามารถหลายด้าน ซึ่งในการรณรงค์หาเสียงนั้นจะมีเรื่องกิจกรรมควบคู่กันไปด้วย นอกจากนี้ในอนาคตก็จะได้ลงสมัคร ส.ส. อีกด้วย
- ดร.ธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ รองผู้อำนวยการศูนย์ ฝ่ายอำนวยการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นงานที่เป็นหัวใจสำคัญ เนื่องจากจะต้องทำหน้าที่ประสานงานทั้งเครือข่ายภายในพรรค และภายนอกพรรคจำนวนมาก
นายองอาจ กล่าวว่า หลังจากนี้ภาระหน้าที่ในการหาเสียงเลือกตั้งทั้งหมดตนไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องได้ตามพ.ร.บ. การเลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 34 ดังนั้น ภาระงานในการดำเนินการทั้งหมดจึงได้มอบหมายให้บุคลากรของพรรคได้ดำเนินการขับเคลื่อนต่อไปให้
ในฐานะที่เป็นรองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ ถือว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่สำคัญของบ้านเมืองเรา ไม่ใช่เพียงการเลือกตั้งที่เราจะได้ผู้ว่าฯ กทม คนใหม่เท่านั้น แต่การเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องเป็นการเลือกตั้งที่เราต้องได้ผู้นำที่มาเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานคร และจะเป็นรากฐานอันสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยต่อไปในอนาคต เพราะฉะนั้นการตัดสินใจว่าจะมอบตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหน้าที่พ่อเมืองของเมืองหลวง เช่นกรุงเทพมหานครนั้น จึงเป็นการตัดสินใจที่สำคัญของพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ทุกคน
“พรรคประชาธิปัตย์เราพยายามนำเสนอบุคลากรที่มีความเหมาะสมที่สุด บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ บุคลากรที่พร้อมจะทำงานได้ทันที และสามารถทำได้จริงตามที่ประกาศไว้เป็นนโยบาย ซึ่งเราได้เตรียมการในเรื่องนโยบายมาเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน สามารถตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ยังมีอยู่มากมายในกรุงเทพฯและสามารถที่จะช่วยกันพัฒนากรุงเทพฯ ให้ดียิ่งขึ้น
เพราะฉะนั้น ผมจึงขอความกรุณาจากพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญ พรรคประชาธิปัตย์จึงทุ่มเทอย่างเต็มที่ ในการสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดมามอบให้กับท่าน จึงขอความกรุณาท่านได้ช่วยพิจารณาผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง ส.ก. 50 คน 50 เขต และผู้สมัคร ผู้ว่าฯ ราชการกรุงเทพมหานคร ศ.ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” นายองอาจ กล่าว
พร้อมกับเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับท่านที่ได้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด เราทราบดีว่าในการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา ท่านได้ใช้สิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งที่เห็นว่าถูกต้องเหมาะสมที่สุดและเราเคารพในการตัดสินใจของท่าน แต่สำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในครั้งนี้ ขอให้ท่านได้โปรดให้การสนับสนุนผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิมดังที่เคยได้ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องตลอด
พร้อมกับเชื่อว่าด้วยเสียงในมือของท่านที่จะเข้าสู่หากากบาท ในวันที่ 22 พฤษภาคม จะถือว่าเป็นเสียงที่สำคัญที่จะช่วยทำให้พรรคอันเป็นที่รักของท่านที่ท่านชื่นชมและศรัทธาจะได้มีโอกาสทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ สืบเนื่องต่อไปอย่างยาวนาน จึงขอความกรุณาพี่น้องที่เคารพรักทุกท่านในกรุงเทพฯ ได้โปรดให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
ด้านนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ได้กล่าวขอบคุณที่พรรคได้มอบภารกิจที่สำคัญ พร้อมกับแสดงความตั้งใจมุ่งมั่นทำงาน หลังจากได้ร่วมลงพื้นที่กรุงเทพมหานครมาอย่างต่อเนื่อง และพรรคประชาธิปัตย์ก็มีกระบวนการคัดสรรสมัคร ผู้ว่าฯ กทม.ที่มีความเพียบพร้อมและมีใจที่ทำงานประสานได้ทุกวัย มีมุมมองเห็นอนาคต พร้อมจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับกรุงเทพฯให้ดีขึ้นได้
“อยากให้เปิดใจลองดูทั้งนโยบายที่ เอ้ สุชัชวีร์ และพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอนโยบาย เปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นได้ และคนที่ทำได้ดีที่สุด ก็คือ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ ที่มีทั้งผลงาน และวิสัยทัศน์ จะเป็นผู้ลงมือทำให้ได้จริง และเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ การที่ ส.ก. ได้ลงพื้นที่ร่วมกัน ก็จะเป็นหัวหอกในการขับเคลื่อนการเลือกตั้งให้สำเร็จเป็นไปได้ด้วยดีต่อไป” ผอ.ศูนย์เลือกตั้ง กทม. และ ส.ก. กล่าว