มีความชัดเจนแล้วสำหรับวันหย่อนบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. และ นายกเมืองพัทยา โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565 ซึ่งตามกฎหมายได้กำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้ง รวมถึงลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเอาไว้อย่างชัดเจนซึ่งในส่วนของ "นายกเมืองพัทยา" นั้น
กฎหมายกำหนดให้ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1.มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
2.มีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง
3.สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี หรือเทียบเท่า
4.มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเมืองพัทยาเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
5.ไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 50 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 กำหนด
ขณะที่ค่าธรรมเนียมสมัครรับเลือกตั้ง "นายกเมืองพัทยา" อยู่ที่ 10,000 บาท
ส่วนผู้สมัครเป็น "สมาชิกสภาเมืองพัทยา" ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 เขตเลือกตั้ง กฎหมายกำหนดให้มีสมาชิกเขตเลือกตั้งละ 6 คน รวม 24 คนต้องมีคุณสมบัติต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1.มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
2.อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง
3.มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเมืองพัทยาเป็นเวลาติคต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
4.ไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 50 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 กำหนด
ค่าธรรมเนียมสมัครรับเลือกตั้ง "สมาชิกสภาเมืองพัทยา" จะอยู่ที่ 5,000 บาท
ขณะที่บุคคล "ต้องห้าม" ไม่ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง มีดังต่อไปนี้
1.ติดยาเสพติดให้โทษ
2.เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลาย ทุจริต
3.เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ
4.ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ดังนี้
5.อยู่ระหว่างถูกระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งชั่วคราว (ใบส้ม) หรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (ใบดำ)
6.ถูกจำคุกหรือคุมขังโดยหมายของศาล
7.เคยถูกจำคุกและพ้นโทษมาแล้วยังไม่ถึง 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง ยกเว้นความผิดประมาทหรือลหุโทษ
8.เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ
9.เคยถูกศาลมีคำพิพากษา หรือคำสั่งอันถึงที่สุดให้ยึดทรัพย์เป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้จำคุกตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
10.เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำผิด