วันนี้(29 มี.ค.65) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ระเบียบสํานักงานประกันสังคม ว่าด้วยการขอรับเงินสมทบผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่นําส่งไว้เกินจํานวนที่ต้องชําระคืน พ.ศ. 2565
โดยที่พระราชกฤษฎีกากําหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. ๒๕๖๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ลดอัตราเงินสมทบลง ส่งผลให้เงินสมทบที่ผู้ประกันตน ตามมาตรา ๔๐ ซึ่งได้จ่ายล่วงหน้าไว้ เป็นเงินสมทบที่นําส่งเกินจํานวนบางส่วนที่ต้องชําระคืน เพื่อให้ การปฏิบัติงานในการคืนเงินสมทบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกันตนยิ่งขึ้น
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๕ และข้อ ๑๗ แห่งระเบียบคณะกรรมการประกันสังคม ว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บ รักษาเงินกองทุน พ.ศ. ๒๕๕๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เลขาธิการสํานักงานประกันสังคม จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสํานักงานประกันสังคม ว่าด้วยการขอรับเงินสมทบ ผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ ที่นําส่งไว้เกินจํานวนที่ต้องชําระเงินคืน พ.ศ. ๒๕๖๕”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในระเบียบนี้
“ผู้ประกันตน” หมายความว่า ผู้ซึ่งจ่ายเงินสมทบอันก่อให้เกิดสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชกฤษฎีกากําหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของ ประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคล ซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. ๒๕๖๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
“สํานักงาน” หมายความว่า สํานักงานประกันสังคมจังหวัด สํานักงานประกันสังคมจังหวัดสาขา สํานักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือสถานที่อื่นตามที่เลขาธิการประกาศกําหนด
ข้อ ๔ ให้ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิ ยื่นคําร้องขอรับเงินคืนตามแบบคําขอที่แนบท้ายระเบียบนี้ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สํานักงาน หรือด้วยวิธีการทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ หรือทางโทรสาร หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นที่เลขาธิการกําหนด
ในกรณียื่นคําร้องขอรับเงินสมทบที่นําส่งไว้เกินจํานวนที่ต้องชําระคืนตามวรรคหนึ่ง ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับจะถือวันประทับตราไปรษณีย์ต้นทางเป็นสําคัญ หรือทางโทรสาร หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นที่เลขาธิการกําหนด ให้ผู้ยื่นคําร้องขอรับเงินสมทบที่นําส่งไว้ เกินจํานวนที่ต้องชําระคืน เก็บหลักฐานการส่งเพื่อการตรวจสอบ
ข้อ ๕ ให้ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิ ยื่นคําร้องขอรับเงินสมทบที่นําส่งไว้เกินจํานวนที่ต้อง ชําระคืน ต่อสํานักงานภายในระยะเวลา ๑ ปี นับแต่วันที่ทราบว่ามีสิทธิรับเงินคืน หรือภายใน ๑๐ ปี นับแต่วันที่นําส่งเงินสมทบเข้ากองทุน
ข้อ 6 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากประกันสังคมจังหวัด หัวหน้าสํานักงาน ประกันสังคมจังหวัดสาขา ผู้อํานวยการสํานักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ แล้วแต่กรณี เป็นผู้มีอํานาจพิจารณาคําร้องขอรับเงินสมทบที่นําส่งไว้เกินจํานวนที่ต้องชําระคืนตามข้อ ๔ และให้ ข้าราชการซึ่งดํารงตําแหน่งดังต่อไปนี้เป็นผู้มีอํานาจพิจารณาอนุมัติสั่งจ่ายเงิน
(๑) ประกันสังคมจังหวัด หัวหน้าสํานักงานประกันสังคมจังหวัดสาขา หรือข้าราชการ พลเรือนสามัญตําแหน่งประเภทวิชาการตั้งแต่ระดับชํานาญการขึ้นไป ซึ่งปฏิบัติราชการ ณ สํานักงาน ประกันสังคมจังหวัด สํานักงานประกันสังคมจังหวัดสาขา ที่ได้รับมอบหมายจากประกันสังคมจังหวัด
(๒) ผู้อํานวยการสํานักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือข้าราชการพลเรือนสามัญ ตําแหน่งประเภทวิชาการตั้งแต่ระดับชํานาญการขึ้นไป ซึ่งปฏิบัติราชการ ณ สํานักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อํานวยการสํานักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่
วิธีการคืนเงินที่นําส่งไว้เกินจํานวนที่ต้องชําระคืน ให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการประกันสังคม ว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินกองทุน พ.ศ. ๒๕๕๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ข้อ ๗ ให้เลขาธิการรักษาการตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565
บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์
เลขาธิการสํานักงานประกันสังคม