“ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” หนึ่งในผู้ลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เบอร์ 8 ในนามอิสระ ยังคงได้รับความนิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากผลโพลของสำนักต่าง ๆ ซึ่งเจ้าของสมญา “บุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล” มีรายชื่อเป็นอันดับที่หนึ่งมาโดยตลอด กับบุคคลที่ประชาชนคิดว่าจะเลือกให้เป็นผู้ว่าฯกทม.คนใหม่
ด้วยภาพลักษณ์ของ “ชัชชาติ” ซึ่งติดตามาตั้งแต่ครั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สมัยรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยถูกยกให้เป็นรัฐมนตรีติดดิน เพราะเคยทั้งซ้อนจักรยานยนต์รับจ้าง นั่งรถสองแถว ขึ้นรถไฟออกตรวจราชการในพื้นที่ต่าง ๆ และหลายครั้งที่ไปตรวจงานในองค์กรของรัฐโดยที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
โดยในช่วงเวลาดังกล่าวมักมีผู้พบเห็น “ชัชชาติ” ในสถานที่ต่าง ๆ อย่างเช่น ป้ายรถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ รถไฟฟ้า และท่าเรือ พร้อมกับถ่ายรูปมาโชว์ และแชร์กันอย่างสนั่นหวั่นไหวในสังคมออนไลน์ ลบภาพของรัฐมนตรีกระทรวงเกรดเอ ที่มักมีข้อครหาเรื่องใช้งบประมาณสูง กลับอยู่ในความสนใจของใครหลายคนอีกครั้ง
แม้การนั่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่จะอยู่แค่ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่งานหลายอย่างก็ฝากเป็นผลงานที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องของการผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ หรือ เมกะโปรเจกต์ ซึ่งในช่วงนั้นเวลาใครเจอ “ชัชชาติ” มักจะสอบถามและได้ยินการพูดถึงการลงทุนมูลค่า 2 ล้านล้านบาท ผ่านแผนสร้างอนาคตไทย 2020 มาโดยตลอด
สำหรับแผนการลงทุนครั้งใหญ่ของประเทศครั้งนั้น มีทั้งการทำรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าสารพัดสาย รถไฟทางคู่ โครงข่ายทางถนน และการขนส่งทางน้ำ แต่สุดท้ายแผนงานทั้งหมดก็ถูกพับไปหลังจากผลักดันพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ออกมาไม่สำเร็จ แผนการทำโครงการทั้งหมดจึงถูกแช่เอาไว้เป็นพิมพ์เขียวอยู่ในขณะนั้น
อย่างไรก็ตามแม้โครงการจะไม่สามารถผลักดันออกมาได้สำเร็จ แต่ปัจจุบันบางโครงการที่อยู่แผนก็ถูกผลักดันออกมาบ้างแล้ว ซึ่งในทุกวันที่ 11 มีนาคม จะมีการระลึกถึงเรื่องนี้บนโพสต์ของ “ชัชชาติ” พร้อมกับแชร์ข้อมูลของแผนต่าง ๆ จนถึงวันนี้ เป็นเวลามากกว่า 7 ปีแล้ว
ลองไปย้อนดูแผนงานนี้ ซึ่งเป็นผลงานเด่นของ “ชัชชาติ” และเป็นไอเดียสำคัญกับการผลักดันเมกะโปรเจกต์ ซึ่งระบุไว้ดังนี้
สร้างอนาคตไทย 2020 พลิกโฉมประเทศอย่างไร จึงขออธิบายรายละเอียดโครงการต่าง ๆ ในแต่ละยุทธศาสตร์ที่ทางกระทรวงคมนาคม เตรียมไว้ซึ่งมีดังนี้
“ชัชชาติ” ระบุว่า โครงการใน พ.ร.บ.สร้างอนาคตประเทศนี้ ไม่ได้มีแต่เรื่องรถไฟความเร็วสูง แต่มีทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าในกทม. ถนนสี่เลน ด่านศุลกากร ศูนย์กระจายสินค้า มอเตอร์เวย์ บูรณะถนนสายหลัก ถนนเชื่อมประตูการค้า ท่าเรือ สะพานข้ามทางรถไฟ โดยกระจายอยู่ในทุกๆด้าน และ อยู่ในทั่วทุกภูมิภาค ตามความจำเป็นและยุทธศาสตร์ของประเทศ
โครงการเหล่านี้ ไม่ได้คิดขึ้นมาลอยๆ แต่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) หัวข้อ 5.3.4 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ในการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ การพัฒนาระบบขนส่งทางรถไฟ การปรับปรุงโครงข่ายคมนาคมขนส่งในเมือง และเป็นไปตามคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่ได้แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554
สำหรับสิ่งที่จะได้จากโครงการนี้ ที่ทางรัฐบาลคาดหวังไว้คือ