นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่มี ส.ส.พรรคเรียกร้องให้กรรมการบริหารพรรค รับผิดชอบกรณีของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตหัวหน้าพรรค พี่มีพฤติกรรมเสื่อมเสีย ด้วยการลาออกทั้งคณะ ว่า
ความจริงในพรรคประชาธิปัตย์ความเห็นต่างคือเป็นเรื่องปกติ ที่ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความเห็น สิ่งที่ทำได้คือการขอความร่วมมือ ว่าการจะแสดงความเห็นอะไรอยากให้คำนึงถึงพรรค ต้องแยกระหว่างเรื่องส่วนตัว กับปัญหาพรรค
และเห็นว่า กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ควรใช้มาเป็นเกณฑ์ในการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค และเห็นว่าระยะเวลาหลังจากนี้ ทุกฝ่ายในพรรคควรร่วมมือกันทำงานสำหรับการเลือกตั้งสมัยหน้าและหากได้ส.ส.น้อยกว่าเดิม ทางกรรมการบริหารพรรคก็พร้อมที่จะรับผิดชอบอยู่แล้ว
"เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เราคิดว่าเราผ่านสถานการณ์อย่างนี้มาหลายรอบหลายครั้ง ความเห็นที่ต่างกันเป็นเรื่องปกติในพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในความเห็นของผมคิดว่าเวลาที่เหลืออยู่ ในสมัยการเลือกตั้งรอบนี้หรืออายุของรัฐบาล ไม่เกิน 10 ถึง 11 เดือนแล้ว
ดังนั้นควรใช้เวลาที่เหลืออยู่ในการเตรียมภารกิจของพรรคให้ลุล่วง แล้วหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าฝนออกมาอย่างไรเลขาธิการพรรคก็พูดชัดแล้วว่าถ้าน้อยกว่าเดิมคือน้อยกว่า 51 เสียง ท่านรับผิดชอบอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นทุกคนก็พร้อมที่จะรับผิดชอบอยู่แล้ว กรรมการบริหารพรรคก็พร้อมที่จะรับผิดชอบ
แต่อยากให้ใช้ผลการเลือกตั้งเป็นเครื่องตัดสิน ไม่ใช่ว่ามีเรื่องรายวัน กรรมการบริหารพรรคต้องออกเป็นรายวันซึ่งไม่ใช่วิสัยอย่างนั้น เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายก็ว่ากันไปใครผิดก็ต้องรับผิดชอบ ว่ากันไปตามผิด
พรรคไม่ได้เข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของใคร ถือว่าเป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้หลักการนี้ใช้เกณฑ์นี้มาโดยตลอด ถ้าคนทำผิดแล้วเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคถ้าใช้เกณฑ์นี้คงต้องเปลี่ยนกันทุก3-4เดือน ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย"
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีภาพความขัดแย้งออกไปเกิดจาก กรณีที่คนในพรรคประชาธิปัตย์นำเรื่องภายในที่มีความเห็นต่างออกมาเผยแพร่ ทั้งที่เป็นเรื่องภายใน
ดังนั้น คนที่นำเรื่องออกมาเผยแพร่ก็ถือว่ามีความผิด และควรถูกตำหนิ รวมถึงเวลาที่มีการพิจารณาตำแหน่งทางการเมือง ก็ต้องถือว่าบุคคลนี้ไม่มีวุฒิภาวะ และไม่ควรให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันข้างหน้า ซึ่งขณะนี้ก็พอทราบว่าเป็นใคร
เมื่อถามว่า กรณีที่มีการเสนอให้ตั้งกรรมการสอบ นายปริญญ์ นั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า นายปริญญ์ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ก็ถือว่าจบจากพรรคไปแล้วที่เหลือเป็นเรื่องของกฎหมายบ้านเมือง ถึงไม่จำเป็นต้องตั้งกรรมการสอบอีกแล้ว ได้ย้ำว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ใครทำผิดก็ต้องมีความผิด
เมื่อถามถึงกรณีการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม เขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดราชบุรี นั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ อดีตผู้สมัครเดิม ที่เคยลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ มีความประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้ง
แต่กรรมการบริหารพรรคยังไม่ได้คุยกัน ซึ่งจะต้องพิจารณาในหลายส่วน ทั้งความพร้อมของผู้สมัคร และหลักเกณฑ์ ในการตัดสินใจรวมทั้งข้อบังคับพรรค ซึ่งต้องดูทั้งหมด คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 3 - 4 วันนี้