นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมจะนำประเด็นการประมูลโครงการท่อส่งน้ำในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) มาร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจกับฝ่ายค้านว่า คงไม่มีอะไรกรมธนารักษ์ ได้ทำทุกอย่างตามขั้นตอนแล้ว การให้ข้อมูลที่ไม่ใช่ความจริง
ถ้าพูดแบบส่วนตัวก็ว่าไป ยืนยันรัฐบาลไม่ได้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท อีสท์วอเตอร์ จำกัด (มหาชน) เพราะการประปาส่วนภูมิภาค ถือหุ้นอยู่ 40% ดังนั้น จึงเป็นริษัทเอกชน ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ เลยไม่สามารถไปเอื้ออะไรได้
การแข่งขันราคาก็เห็นโดยชัดเจนว่า บริษัทที่แพ้ประมูลได้ให้ประโยชน์กับรัฐในระยะเวลา 30 ปี ประมาณ 24,000 ล้านบาท ส่วนบริษัทที่ชนะประมูล ให้ผลประโยชน์กับรัฐ 25,600 ล้านบาท จากนี้จะดำเนินการอย่างไรก็เป็นสิทธิที่จะทำ
เมื่อถามว่า การที่นำเรื่องดังกล่าวมาเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง นายสันติ กล่าวว่า เมื่อกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เห็นกระแสความไม่เข้าใจ ก็คงจะไปตรวจสอบดูอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เกิดความเข้าอกเข้าใจ เพราะต้องเข้าใจว่า ตลอด30 ปีที่ผ่านมา บริษัทที่ได้รับสัมปทานจ่ายผลประโยชน์ให้กับรัฐ 552 ล้านบาท
เมื่อกรมธนารักษ์เปิดประมูลใหม่ บริษัทที่แข่งขันให้ผลประโยชน์กับรัฐ 25,000 ล้านบาท แตกต่างกันมากกว่ากี่เท่าก็คำนวณไม่ถูก
"ต้องถามบริษัทที่แพ้ประมูลว่า ในอดีต 30 ปีที่ผ่านมา เงินเหล่านี้ไปไหนหมด ซึ่งเป็นข้อสำคัญที่เราไปตรวจสอบ" นายสันติ กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีนายพิเชษฐ เป็นส.ส.พปชร. แต่กลับมาตรวจสอบเลขาฯพรรค นั้น นายสันติกล่าวว่า นายพิเชษฐ เพิ่งมาอยู่ใหม่ การที่มาระบุว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ทั้งที่ในพปชร.ไม่มีกลุ่ม จึงไม่อยากไปวิจารณ์
เมื่อถามว่า จะมีบทลงโทษอย่างไรหรือไม่ เพราะอาจจะทำให้พรรคเสื่อมเสีย นายสันติ กล่าวว่าเรื่องนี้อยู่ที่กรรมการบริหารพรรค ยังไม่รู้จะนำเข้าที่ประชุมเมื่อใด
เมื่อถามว่า มีความพร้อมในการชี้เแจงประเด็นนี้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างไร นายสันติกล่าวว่า ตนพร้อมอยู่แล้ว แต่ในเมื่อมีข้อทักท้วง2-3ประเด็น ที่ปรากฎ ในฐานะรัฐก็จะต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาตรวจสอบดูว่าสิ่งที่ได้ดำเนินการไป การแข่งขันต่างๆ ตรงไปตรงว่าหรือไม่
โดยเฉพาะกรณีที่บริษัท อีสท์วอเตอร์ ฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ขอให้คุ้มครองถึง 3 ครั้ง และศาลปกครองก็ยกคำร้องทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า การที่กรมธนารักษ์ยกเลิกการประมูลในครั้งแรกทำถูกต้องแล้วตามสิทธิและหน้าที่ ข้อมูลเหล่านี้คณะกรรมการได้รายงานตนแล้ว
เมื่อถามว่า นายสันติ จะเป็นผู้ชี้แจงเรื่องนี้ในสภา ใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ต้องดูว่า คณะกรรมการที่อธิบดีกรมธนารักษ์ตั้งขึ้นนั้น ตรวจสอบว่ามีข้อผิดพลาดหรือไม่
เมื่อถามถึงเจตนาของการออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ในช่วงเวลานี้ มีจุดประสงค์อื่นนอกจากการอภิปรายฯ หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ตนว่าสื่อก็ทราบอยู่แล้ว ว่าการที่ออกมาเปิดประเด็นเหล่านี้จริงหรือไม่ เช่น การบอกว่า อีสท์วอเตอร์ เป็นรัฐวิสาหกิจ แล้วทำไมกระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ ไม่ดูแล ต้องถามว่า อีสวอเตอร์เป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่
เมื่อถามว่า นายพิเชษฐ ยังจะสามารถอยู่กับพปชร. ได้หรือไม่ เพราะมีพฤติกรรมไปร่วมกับฝ่ายค้าน นายสันติ กล่าวว่า ให้สื่อช่วยคิดแล้วกัน