"ชัชชาติฟีเว่อร์" หมอประเวศ ชี้ การเมืองทางสายกลางจะทำให้บ้านเมืองลงตัว

06 มิ.ย. 2565 | 11:45 น.
อัปเดตล่าสุด :06 มิ.ย. 2565 | 18:49 น.

ศ.นพ.ประเวศ ย้ำชัด กระแสชัชชาติฟีเว่อร์ขณะนี้ ชี้ การเมืองใหม่ คือ การเมืองทางสายกลางจะทำให้บ้านเมืองลงตัว

ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฏรอาวุโส เผยแพร่บทความลงวันที่ 4 มิถุนายน 2565 ในหัวข้อ "กระแสชัชชาติ การเมืองใหม่ คือ การเมืองทางสายกลางจะทำให้บ้านเมืองลงตัว" มีใจความดังนี้ 

 

การเมืองไทยติดขัดมา 100 ปี ทำให้บ้านเมืองวิกฤต และออกจากสภาวะวิกฤติไม่ได้เพราะเป็นการเมืองแบบแบ่งข้างแบ่งขั้ว ปะทะ ทอนกำลังกันเอง ประทุเป็นความรุนแรงหลายครั้งทางสายกลาง หรือ มัชฌิมาปฏิปทา เป็นทางที่พระพุทธองค์ตรัสสอน

 

เป็นทางสายปัญญาใช้ความเป็นเหตุเป็นผล ความรู้ ไมตรีจิต และการรวมตัวร่วมคิดร่วมทำของที่เป็นขั้วจะถูกขั้วตรงข้ามจับ เคลื่อนไม่ได้ไกล เช่น ประจุไฟฟ้าบวก (โปรตอน) จะถูกประจุไฟฟ้าลบ (อิเล็กตรอน) จับเคลื่อนไม่ได้ไกล แต่อนุภาคที่เป็นกลาง คือ นิวตรอน สามารถเคลื่อนทะลุทะลวงได้ไกล

ประชาชนเบื่อความเป็นปฏิปักษ์ จึงเกิด “กระแสชัชชาติ” อย่างล้นหลาม เพราะคุณชัชชาติไม่แสดงว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อใคร เน้นการร่วมคิดร่วมทำ และใช้ความรู้ วิกฤตโควิด 19 แสดงให้เห็นว่า การเมืองแบบวาทกรรม และเล่นเกมการเมือง โดยปราศจากความรู้ความเข้าใจในความซับซ้อนของปัญหา ไม่สามารถตอบโจทย์ของบ้านเมืองได้ บ้านเมืองเต็มไปด้วยปัญหาที่ซับซ้อนและยาก การเมืองแบบเก่า ไม่สามารถทำให้ประเทศก้าวออกจากสภาวะวิกฤตได้

 

การเมืองใหม่ คือ การเมืองทางสายกลาง ที่ไม่คิดเชิงปฏิปักษ์ต่อใคร ๆ ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง แต่ใช้ปัญญา ความเป็นเหตุเป็นผล ไมตรีจิต และการรวมตัวร่วมคิดร่วมทำ ถ้าการเมืองระดับชาติขยับมาเป็นกลาง การเมืองทางสายกลาง คนไทยจะก้าวข้ามความขัดแย้ง แบ่งข้างแบ่งขั้ว สามารถเข้ามารวมตัวร่วมคิดร่วมทำเต็มแผ่นดิน มีความมุ่งมั่นร่วมกัน

 

คนไทยไม่เคยมีความมุ่งมั่นร่วมกัน เมื่อใดคนไทยเกิดความมุ่งมั่นร่วมกัน จะเกิดพลังประดุจการรวมแสงเลเซอร์ ทำให้ทะลุทะลวงออกจากวงล้อมอันหนาแน่นของปัญหาได้ กุญแจของประเทศไทย คือ การรวมตัวร่วมคิดร่วมทำทั้งแผ่นดิน ทุกพื้นที่ ทุกองค์กร ทุกประเด็น การเมืองทางสายกลางจึงเป็นการเมืองที่ทำให้เกิดพลังแผ่นดิน หรือ ภูมิพละ

ถ้าสื่อมวลชนทุกประเภทสื่อให้ประชาชนรู้ความจริงอย่างทั่วถึงว่า ทางสายกลาง คือ ทางออกของประเทศ ออกจากความมืดของการแบ่งข้างแบ่งขั้ว และเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ไปสู่ความสว่างทางปัญญา ไมตรีจิต การร่วมคิดร่วมทำ  นั่นแหละประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาธิปไตยทางสายกลาง

 

การคิดแบบตายตัวแยกส่วน แยกข้างแยกขั้ว ที่นำโดยตะวันตก นำโลกมาสู่สภาวะวิกฤตจนสุดทางไป อรุโณทัยแห่งทางสายกลางเริ่มจับขอบฟ้าตะวันออกแล้ว