อสส.สั่งไม่ฟ้องคดีอาญา “นิพนธ์ ”ปมไม่จ่ายเงิน ค่ารถอเนกประสงค์2 คัน 50 ล้าน

09 มิ.ย. 2565 | 09:21 น.
อัปเดตล่าสุด :09 มิ.ย. 2565 | 16:29 น.

อสส.สั่งไม่ฟ้องคดีอาญา “นิพนธ์ บุญญามณี” ปมละเลยไม่จ่ายเงินค่ารถอเนกประสงค์ 2 คัน 50 ล้าบาท สมัยเป็น “นายก อบจ.สงขลา” ส่งสำนวนคืน ป.ป.ช.แล้วตั้งแต่ มี.ค. 65 ส่วนคดีฮั้วประมูล พนง.สอบสวน สภ.เมืองสงขลา สรุปสำนวนฟ้องส่งอัยการแล้ว

ความคืบหน้า กรณีกล่าวหา นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.สงขลา) ฐานละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ ให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทคพลัส จำกัด จำนวน 2 คัน วงเงินกว่า 50 ล้านบาท

 

โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายนิพนธ์ ต่อมามีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างฝ่ายอัยการและฝ่าย ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ ซึ่งไม่สามารถหาข้อยุติได้ จึงส่งสำนวนไปให้อัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อชี้ขาดนั้น

 

วันนี้  (9 มิ.ย. 2565) มีรายงานข่าวแจ้งว่า อัยการสูงสุด (อสส.) มีคำสั่งไม่ฟ้องนายนิพนธ์  คดีดังกล่าวแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2565 และมีคำสั่งให้คืนสำนวนดังกล่าวแก่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 93 วรรคสอง ประกอบมาตรา 77 วรรคสาม

 

โดยสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9 ได้ส่งสำนวนคืนให้แก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้วเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมา

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย

 

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายนิพนธ์กรณีดังกล่าว ต่อมานายนิพนธ์ ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนหลายครั้งยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง โดยสมัยตนเข้ามาเป็นนายก อบจ.สงขลา ภายหลังการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว

 

โดยมีปัญหาการร้องเรียนว่าการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวอาจมีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้วฯ) หรือไม่ โดยผู้ร้องเรียนได้ร้องเรียนไปหลายที่ทั้ง อบจ.สงขลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สตง.ภูมิภาคที่ 15 และสำนักงาน ป.ป.ช.สงขลา

ต่อมาจังหวัดสงขลา โดยรองผู้ว่าฯสงขลา ทำหนังสือถึง อบจ.สงขลา ให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ตนจึงดำเนินการตามหนังสือของจังหวัดสงขลาดังกล่าว


อย่างไรก็ดีเมื่อส่งสำนวนไปยัง อสส.แล้ว ปรากฏว่าพยานหลักฐานไม่สมบูรณ์ จึงมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่าฝ่ายอัยการและฝ่าย ป.ป.ช. โดยมีการนัดหารือกันหลายครั้ง แต่ไม่สามารถหาข้อยุติได้

 

เนื่องจากต้องรอผลคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด คดีที่บริษัท พลวิศว์ฯ ซึ่งเป็นเอกชนผู้จำหน่ายรถอเนกประสงค์ 2 คันในคดีนี้ เป็นผู้ฟ้อง อบจ.สงขลา โดยศาลปกครองจังหวัดสงขลา (ชั้นต้น) พิพากษาให้บริษัท พลวิศว์ฯ เป็นผู้ชนะ 

ต่อมาศาลปกครองสูงสุด ได้พิพากษาให้บริษัท พลวิศว์ฯ เป็นผู้ชนะอีกเช่นกัน เนื่องจากไม่ปรากฏว่ากรรมการของเอกชนผู้ชนะการประกวดราคามีความสัมพันธ์เชิงบริหาร หรือเป็นหุ้นส่วนกับเอกชนอีกรายหนึ่งที่เข้ายื่นเสนอราคา หรือมีส่วนได้ส่วนเสียสมยอมในการประกวดราคา ดังนั้น สัญญาจึงยังคงผูกพันคู่สัญญาต้องปฏิบัติตาม จึงถือว่า อบจ.สงขลา ผิดสัญญา ต้องชำระเงินดังกล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนคดีอาญาที่นายนิพนธ์ แจ้งความเอกชนรายดังกล่าว คดีกล่าวหาว่าฮั้วประมูลนั้น สภ.เมืองสงขลา รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว

 

โดยมีความเห็นควรสั่งฟ้องบริษัท พลวิศว์ฯ กับพวกที่เป็นผู้บริหาร ในความผิดฐานร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม ตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์จะให้ประโยชน์แก่ผู้หนึ่งผู้ใดเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ

 

โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานรัฐหรือโดยการเอาเปรียบหน่วยงานรัฐ อันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 264, 268

 

และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542(พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 4, 14 (2), 14 วรรคสาม บัดนนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการติดต่อนัดหมายส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนการสอบสวนไปให้พนักงานอัยการเพื่อพิจารณาดำเนินคดีต่อไป