วันที่22มิ.ย.2565 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาประมาณ 60 นาย รวมตัวยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน, นายขจิต ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย อดีตรองประธานสภา เพื่อคัดค้านการเปลี่ยนแปลงเครื่องแบบตำรวจรัฐสภา
จากนั้นนายขจิตร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประกาศการเปลี่ยนแปลงเครื่องแบบตำรวจรัฐสภา ว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากตำรวจรัฐสภาจำนวนมากที่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงเครื่องแบบดังกล่าว
เนื่องจากเห็นว่าเครื่องแบบเดิมที่ใส่อยู่มีความเหมาะสมอยู่แล้ว ถึงแม้จะมีลักษณะคล้ายกับตำรวจทั้งประเทศ แต่ก็มองว่าถ้าเหมือนแล้วมีข้อดีจะแตกต่างไปทำไม จึงไม่จำเป็นต้องไปเปลืองงบประมาณกว่า 2 ล้านบาท
ตนเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงใดๆต้องได้รับความยินนยอมและสมัครใจจากผู้ที่ต้องปฏิบัติงานด้วย ในเมื่อเขาไม่ต้องการ บรรดาผู้บริหารเช่น ผู้อำนวยการสำนักหรือผู้บังคับบัญชาจะไปบังคับเขาเพื่ออะไร หรือมีประโยชน์อื่นใดในการเปลี่ยนแปลงเครื่องแบบครั้งนี้
“คนที่ต้องใส่ชุดคือเจ้าหน้าที่ตำรวจสภาในเมื่อเขามีความสุข คนที่ไม่ได้ใส่อย่างผู้บริหารจะไปเดือดร้อนอะไรกับเขา ไม่ว่าคำสั่งใดก็ตามที่ออกมา ต้องคิดถึงใจคนปฏิบัติด้วย ไม่ใช่คิดว่าเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาจะสั่งอะไรก็ได้ การบริหารงานมีเป้าหมายเพื่อคุณภาพและมาตรฐานของงานที่สูงขึ้น ไม่ใช่มายุ่งเรื่องเครื่องแบบ” นายขจิตร กล่าว
เมื่อถามว่ามีการชี้แจงตำรวจสภาส่วนใหญ่ต้องการเปลี่ยนเครื่องแบบ นายขจิตร กล่าวว่า เท่าที่คนมาร้องเรียนกับตนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ถ้าผู้บริหารอ้างว่า มีคนเห็นด้วยกับท่านก็ขอให้เปิดแบบสอบถามที่ได้สอบถามความเห็นของตำรวจสภาออกมา เพราะตนรู้มาว่า ได้มีคนไปขอแบบสอบถามดังกล่าวมาตรวจสอบแต่ก็ยังไม่ได้รับการเปิดเผยใดๆ
“ผมเสนอทางออกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายวิชาการที่เพิ่งรับเข้ามาให้ใส่ชุดอื่นแทนไป โดยไม่จำเป็นต้องมาเปลี่ยนของคนเก่าเขา โดยที่เขาไม่เต็มใจ” นายขจิตร ระบุ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการสอบถามตัวแทนตำรวจรัฐสภาถึงการออกแบบเครื่องแต่งกายแบบใหม่ โดยพบข้อห่วงใยในเรื่องของการออกแบบชุดที่ไม่อิงกลุ่มหรือเกณฑ์ เช่น ตำรวจศาล หรือองค์กรอิสระอื่น อีกทั้งชุดตำรวจรัฐสภาก็เป็นต้นแบบให้กับองค์กรอื่นซึ่งมีการมาศึกษาดูงานตลอดที่ผ่านมา