ตามดู“ชัชชาติ”ปฏิบัติภารกิจที่หนองแขมวันนี้

26 มิ.ย. 2565 | 09:10 น.
อัปเดตล่าสุด :26 มิ.ย. 2565 | 16:28 น.

วันนี้ “ชัชชาติ”ลุยปฏิบัติภารกิจที่เขตหนองแขม เปิดและร่วมวิ่งกิจกรรมโครงการหนองแขมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพดีวิถีชีวิตใหม่ ต้านภัยโควิด ย้ำลงทุนเพื่อสุขภาพคุ้มค่ากว่าทำโรงพยาบาล ก่อนร่วมปลูกต้นจำปีพืชประจำถิ่นและสร้างเศรษฐกิจเขตหนองแขม

ความเคลื่อนของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ในการปฏิบัติภารกิจในวันนี้ (26 มิ.ย.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อเวลา เวลา 05.00 น. ได้ไปเป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการหนองแขมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพดีวิถีชีวิตใหม่ ต้านภัยโควิด โดยมี นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร นายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร นางมณีวรรณ ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการเขตหนองแขม คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตหนองแขม กลุ่มหนองแขมร่วมใจ ภาคีเครือข่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรม ณ สวนพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดย นาชัชชาติ ได้ร่วมวิ่งในกิจกรรมนี้ด้วย 


นาชัชชาติ กลาวว่า วันนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก ที่ได้ออกนอกพื้นที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากเขตหนองแขมไม่มีพื้นที่ใหญ่ในการจัดงานวิ่ง เราคงต้องหาพื้นที่ใหญ่ไว้สำหรับวิ่ง วันนี้เราอยู่ในที่แจ้ง ก็ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากาก เวลาวิ่งก็อยู่ห่าง ๆ กัน ยกเว้นตอนอยู่ใกล้กัน มีการสัมผัสกัน ก็ควรใส่ไว้ก่อน ยังต้องระมัดระวังไว้ โควิดยังไม่ได้หายไป 


“การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ ผมก็พยายามพูดเสมอว่า สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้เราต้องทำด้วยตนเอง ผมคิดว่าการลงทุนเรื่องสุขภาพคุ้มค่ากว่าและสำคัญที่สุด ดีกว่าการลงทุนทำโรงพยาบาล สุขภาพดีทำให้เราทำงานได้ ดูแลคนที่เรารักได้ ขอบคุณภาคีเครือข่ายที่ช่วยกันจัดงาน รวมถึงภาคเอกชนเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเมือง ขอให้ทุกคนออกกำลังกายด้วยความสุข ถึงเส้นชัยตามที่ตั้งใจไว้" ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า 

                                  ตามดู“ชัชชาติ”ปฏิบัติภารกิจที่หนองแขมวันนี้
สำหรับโครงการหนองแขมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพดี วิถีชีวิตใหม่ ต้านภัยโควิด ประจำปี 2565 จัดขึ้นโดยสำนักงานเขตหนองแขม ร่วมกับกลุ่มหนองแขมร่วมใจ และภาคีเครือข่าย มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ความรู้การฝึกเดิน-วิ่งตามหลักเวชศาสตร์การกีฬา เป็นการรณรงค์สร้างกระแสและเป็นทางเลือกในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ จัดฝึกซ้อมเดิน-วิ่งอย่างถูกต้องตามหลักเวชศาสตร์การกีฬา ส่งเสริมและกระตุ้นให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยให้เห็นความสำคัญของการเคลื่อนไหวผ่านการฝึกเดิน วิ่ง ในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ 

พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ สำหรับกิจกรรมดังกล่าว แบ่งออกเป็น เดิน-วิ่ง ระยะทาง 10 กม. และเดิน-วิ่ง ระยะทาง 5 กม. ประเภทละ 3 รางวัล ได้แก่ ชายอายุไม่เกิน 49 ปี หญิงอายุไม่เกิน 49 ปี ชายอายุ 50 ปี ขึ้นไป หญิงอายุ 50 ปี ขึ้นไป พร้อมทั้งจับฉลากมอบของที่ระลึก Lucky draw ให้กับนักเดิน-วิ่ง ที่เข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการครบทั้ง 3 ครั้ง และผู้ที่ผ่านเส้นชัยในเวลาที่กำหนดจะได้รับเหรียญที่ระลึก


ในเวลาต่อมา นายชัชชาติ  ได้นำคณะผู้บริหาร กทม. ปลูกต้น"จำปีหนองแขม" ณ สวนพุทธรักษ์ ซอยเพชรเกษม 77 เขตหนองแขม โดยจำปีหนองแขมเป็นต้นไม้ GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications หรือ GI)) ว่าเป็นต้นไม้ประจำถิ่นของเขตหนองแขม 

                              ตามดู“ชัชชาติ”ปฏิบัติภารกิจที่หนองแขมวันนี้
โดยเขตหนองแขมนี้เป็นแหล่งเพาะปลูกจำปีที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีพื้นที่ปลูกเกือบ 600 ไร่ ถือเป็นพืชที่ส่งเสริมเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่นอีกด้วย นอกจากนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังร่วมเล่นบาสเกตบอลกับผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และ ตีแบดมินตันกับประชาชนที่มาใช้บริการที่สวนพุทธรักษ์อีกด้วย


“เป็นที่น่ายินดีที่วันนี้มีเอกชนเข้ามาเสนอตัวปลูกต้นไม้แล้ว 6 แสนต้น ซึ่งถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ คาดว่าเราสามารถทำตามเป้าหมายได้แน่นอน 1 ล้านต้นภายใน 4 ปี และอาจจะต้องมีการขยายเพิ่มเติมอีกด้วย ถือเป็นการตอบรับที่ดีที่ทุกคนมาร่วมมือกัน และน่าจะทำให้กรุงเทพฯ ดีขึ้นได้ หากเราช่วยกันร่วมมือกันอย่างจริงจัง เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณ”  ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังการปลูกต้นจำปี

                      ตามดู“ชัชชาติ”ปฏิบัติภารกิจที่หนองแขมวันนี้
นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า วันอาทิตย์เราอาจจะประกาศว่าเป็น "วันปลูกต้นไม้" เพื่อให้เอกชนเริ่มตื่นตัวและมีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์ครั้งนี้ร่วมกัน 


นอกจากนี้ยังอยากท้าทายให้นักข่าว ช่างภาพ และสำนักข่าวต่างๆรวมตัวกันทุกสำนักด้วยสามัคคี เพื่อร่วมกันปลูกร่วมมือกันปลูกต้นไม้ให้กรุงเทพฯ อย่างน้อย 1,000 ต้น เพื่อประชาชน อีกด้วย

                         ตามดู“ชัชชาติ”ปฏิบัติภารกิจที่หนองแขมวันนี้
สำหรับจำปีเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม มีเอกลักษณ์แตกต่างจากดอกไม้ชนิดอื่น กลีบดอก มีความแข็งแรง สีขาวบริสุทธิ์ รูปทรงอ่อนช้อยสวยงาม เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย มีความผูกพันเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ความเชื่อความศรัทธาของชาวไทย ในกรุงเทพมหานคร มีแหล่งปลูกเฉพาะในพื้นที่ 4 เขต คือ เขตหนองแขม เขตบางบอน เขตบางแค และเขตทวีวัฒนา ซึ่งควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้คงไว้

 


ต่อมา นายชัชชาติ ได้ประชุมติดตามการทำงานและการแก้ไขปัญหาของเขตหนองแขม  พร้อมกล่าวหลังกาประชุมว่า ปัญหาหลัก ๆ ของเขตหนองแขม คือ เรื่องน้ำท่วม มีหมู่บ้านจำนวนมากขยายเข้ามาในเขตเกษตรกรรมเก่า มีเรื่องการขุดลอก คูคลอง การระบายน้ำต่าง ๆ มีโครงการทำเขื่อน

 

เช่น คลองมหาศร กำลังสูบน้ำตามจุดต่าง ๆ เพื่อระบายน้ำได้เร็ว และมีโครงการอยู่ที่คลองทวีวัฒนาที่เป็นจุดคอขวดอยู่ ทำอุโมงค์ลอดเพื่อให้น้ำไหลได้เร็วขึ้น ปัญหาน้ำท่วมที่พบหลาย ๆ ครั้ง คือ หลายหมู่บ้านเป็นพื้นที่เอกชน ซึ่ง กทม. ไม่สามารถขุดลอกท่อได้ คงต้องดูมาตรการดูแลคลองที่เชื่อมกับหมู่บ้านให้ดีขึ้น 


เรื่องที่ 2 ปัญหาการจราจรติดขัด โดยเฉพาะถนนเส้นบางบอน 3 กับถนนบางบอน 5 ที่วิ่งมาจากเขตบางบอนเชื่อมกับถนนเพชรเกษม เรามีโครงเร่งรัดที่ขยายคอขวดตรงสะพาน ให้สำนักการโยธาเร่งดำเนินการ อาจจะมีเวณีคืนที่ดินเล็กน้อย แต่ได้ทำความเข้าใจกับประชาชนแล้ว 

                         ตามดู“ชัชชาติ”ปฏิบัติภารกิจที่หนองแขมวันนี้
เรื่องที่ 3 จุดเสี่ยงต่าง ๆ ไฟฟ้าดับ ทางข้ามหรือทางม้าลาย สำหรับเรื่องไฟฟ้าไม่ติด มีความคืบหน้าจากครั้งที่แล้วที่ประชุมที่เขตคลองเตย สรุปว่า สำนักการโยธาจะเป็นผู้รับผิดชอบเปลี่ยนหลอดไฟทั้งหมด เพื่อให้การดำเนินการรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องผ่านการไฟฟ้านครหลวง ส่วนทางม้าลาย เขตรายงานว่ามีทั้งหมด 67 จุด ทุกจุดจะมีการปรับปรุง ทั้งการขีดสีตีเส้น ติดตั้งสัญญาณไฟ ซึ่งจะเร่งรัดดำเนินการต่อไป


เรื่องที่ 4 เรื่องฝุ่น PM2.5 เนื่องจากเขตหนองแขมมีถนนเพชรเกษม รถบรรทุกสามารถวิ่งได้ทั้งวันทั้งคืน ถนนพุทธมณฑลสาย 2-3 เป็นแหล่งกระจายสินค้า มีรถบรรทุกวิ่งมารับสินค้าและกระจายไปทั่วประเทศ อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่ง รวมทั้งเป็นพื้นที่ชายแดนด้านตะวันตก ติดจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดนครปฐม มีโรงงานอุตสาหกรรม อาจจะมีผลต่อเรื่องฝุ่น PM2.5 ทำให้เขตหนองแขมมีผลกระทบเรื่องฝุ่นยาวนานและต่อเนื่อง 


ทั้งนี้ ได้ฝากมาตรการให้ไปดำเนินการ เรื่องแรก เขตต้องเข้มข้นกิจกรรมการปล่อยควันพิษต่าง ๆ  ขณะเดียวกันส่วนกลางต้องสนับสนุน อย่างแรก 1. การทำวิจัย ต้นเหตุ PM2.5 ให้เข้มข้น ปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง นโยบายเราจะมีนักสืบฝุ่น คือดูให้รู้เลยว่า PM2.5 ในแต่ละเขตที่มาที่ไปจากอะไร ต้นเหตุคืออะไร จะได้มีการแก้ปัญหาได้ตรงจุด 


2. ให้สำนักการโยธาไปดูไซต์งานต่าง ๆ และกำหนดเงื่อนไขการก่อสร้างว่า ต้องไม่เกิด PM2.5 ในกระบวนการก่อสร้าง ซึ่งรวมถึงรถที่ขนของเข้ามา รถปูน รถต่าง ๆ ถ้ารถมีปัญหา จะให้หยุดการก่อสร้างชั่วคราว จนกว่าจะแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ได้  

3.มอบหมายสำนักการจราจรหาแนวทางการควบคุมมาตรฐานของรถบรรทุกที่วิ่งผ่านเข้ามาในกรุงเทพฯ ทางกรมการขนส่งทางบกเขาอาจมีภารกิจอื่น การไปตั้งด่านกลางถนนอาจทำให้รถติดด้วย มาตรการอย่างไรที่เข้มข้นขึ้น ที่จะควบคุมปริมาณรถเข้าออกไม่ให้เกิดฝุ่น PM2.5  

 

4. โรงงานอุตสาหกรรมที่มีอยูในกรุงเทพฯ 6,000 แห่ง จะติดตามเฝ้าระวังตัวเซ็นเซอร์ที่ปล่องอย่างไร เพื่อให้ดูคุณภาพอากาศที่ปล่อย 24 ชม. ซึ่งเป็นมาตรการที่จะพัฒนาต่อไป 

 

“นโยบายนักสืบฝุ่นอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ทันที เป็นการทำวิจัยในระยะยาว เพื่อหาที่มาที่ไปของฝุ่น ที่ผ่านมาของกรุงเทพฯ ไม่มีข้อมูลตรงนี้ละเอียด” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

 

นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องที่ 5 หาบเร่-แผงลอย มีหลายจุดที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น บริเวณหน้าหมู่บ้านหรรษา ถ.เพชรเกษม ขั้นตอนแรก คือให้ไปสำรวจทำทะเบียนทั้งหมดของผู้ค้าหาบเร่-แผงลอยในเขตหนองแขม ประมาณ 300 ราย แล้วมาดูจุดต่าง ๆ ว่าจุดไหนสามารถอะลุ่มอล่วย และอยู่ได้โดยไม่เบียดบังคนเดินเท้า 

                      ตามดู“ชัชชาติ”ปฏิบัติภารกิจที่หนองแขมวันนี้

ข้อดีคือ ถ.เพชรเกษมมีทางเท้าที่กว้าง เดี๋ยวเราไปดูรายละเอียดอีกที คงต้องรีบดำเนินการ ด้านสวนสาธารณะเขตหนองแขมมีแค่แห่งเดียว คือสวนพุทธรักษา ได้มอบหมายเขตฯ ให้หาพื้นที่สีเขียวเพิ่ม ตอนนี้ไปดูพื้นที่ใต้สะพานพุทธมณฑลสาย 3 มีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ให้พัฒนาและหา Pocket Park ให้มากขึ้น 

 

ปัญหาต่อมาเรื่องที่ 6 โรงขยะหนองแขม มีพื้นที่ 300 กว่าไร่ ชาวบ้านบ่นเรื่องกลิ่นขยะ จากกองขยะ จะลงไปดู ว่าเหมือนที่อ่อนนุชหรือไม่ อาจจะพัฒนาพื้นที่กองขยะหนองแขมให้เป็นสวนสาธารณะได้หรือไม่ ปัจจุบันมีพื้นที่สวนป่ากว่า 10 ไร่ อนาคตอาจมีโครงการตรงนี้เพิ่ม เพื่อให้สามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวของหนองแขมได้ 

 

“โดยภาพรวม เขตหนองแขม Traffy fondue ที่แจ้งมาค่อนข้างดี แจ้งมา 500 กว่าเรื่อง รับเรื่องเกือบหมดแล้ว  99% แก้ไขแล้ว 190 เรื่อง ถือว่าเป็นเขตที่มีการตอบสนองปัญหากับประชาชนได้ดีถึงดีเยี่ยม ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่เขตทุกคนที่ช่วยกันแก้ปัญหา มีความกระตือรือร้นและตอบปัญหาได้ดี” ผู้ว่าฯ กทม.ระบุว่า