วันที่ 18 ก.ค.2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เพื่อพิจารณางบของกระทรวงกลาโหม วงเงิน 197,292,732,000 ล้านบาท
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรเพื่อไทย ในฐานะกมธ.วิสามัญฯ กล่าวสอบถามว่า กรณีการซื้ออากาศยานไร้คนขับหรือยูเอวีของ กองทัพเรือว่ามีรายละเอียดอย่างไร และการแก้ปัญหาเรือดำน้ำที่ไร้เครื่องยนต์ ลำพังกองทัพเรือคงไม่สามารถยุติปัญหาดังกล่าวได้ เพราะการทำสัญญาเป็นการซื้อแบบรัฐต่อรัฐ จึงต้องการทราบว่ากระทรวงกลาโหมจะดำเนินการอย่างไร
นอกจากนี้ยังได้สอบถามถึงงบประมาณเครื่องบินรบแบบยุทธศาสตร์ F-35 A ของ กองทัพอากาศซึ่งเริ่มตั้งงบในปี 2566 ในราคาลำละ 2,900 ล้านบาท และจะจัดซื้อเบื้องต้น 4 ลำ ว่า การซื้อเครื่องบินรุ่นดังกล่าวทราบว่ามิว่าไม่ใช่ใครก็จะซื้อได้ แต่จะต้องได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกา
ดังนั้นจึงอยากทราบว่าการที่สภาฯ ตั้งงบประมาณในการขอจัดซื้อ ได้รับอนุมัตินั้นจากสภาคองเกรสแล้วใช่หรือไม่ และหากยังไม่ได้รับอนุมัติ ขั้นตอนในการขออนุมัติ จะใช้เวลานานเท่าใด ทั้งนี้ เพราะหากยังไม่มีการอนุมัติ แล้วให้สภาฯ ตั้งงบไปก่อน คำถามต่อมาคือ จะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ทันหรือไม่
ด้าน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ในฐานะ กมธ. สัดส่วนพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายพุ่งเป้าไปที่ ค่าใช้จ่ายของนายทหารระดับสูงโดยขอทราบรายละเอียดเงินตอบแทนพิเศษทหารระดับพันเอก (พิเศษ) ขึ้นไป จนถึงระดับนายพล ว่า มีอัตราการจ่ายอย่างไร และจ่ายอยู่จำนวนกี่นาย รวมงบประมาณเท่าใด
ขณะเดียวกันนายสมชัย ยังอ้างว่าได้รับจดหมายจากกำลังพลส่งมาให้และขออ่านสอบถามเพื่อให้เหล่าทัพต่างๆ ชี้แจง ระบุว่าได้รับการแจ้งจากคนในกองทัพว่า ปัจจุบันทุกเหล่าทัพมีการเช่ารถยนต์ให้ผู้บริหารระดับสูง รวม 36 คน เช่น ปลัดกระทรวงกลาโหม รองปลัดฯ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และที่ปรึกษากองทัพ
โดยรถที่เช่า เป็นรถเบนซ์ S500 และ S400 ซึ่งในจดหมายดังกล่าวตั้งข้อสังเกตว่าการเช่ารถให้ผู้บริหารกองทัพมีหลักเกณฑ์เหมือนหน่วยราชการอื่นทั่วไปหรือไม่ ที่จะมีการกำหนดวงเงิน ค่าเช่า และจำนวนซีซีของรถยนต์ เทียบกับตำแหน่งต่างๆ ซึ่งตนอยากได้รับคำชี้แจงจากกองทัพ