เปิดหลักฐาน"ศักดิ์สยาม" แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเป็นเท็จหรือไม่

25 ก.ค. 2565 | 03:19 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ค. 2565 | 13:26 น.

เปิดหลักฐาน"ศักดิ์สยาม"แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช .ก่อนเข้ารับตำแหน่ง รมว.คมนาคม เป็นเท็จหรือไม่ เหตุอ้างไม่มีหนี้สิน แต่พบหลักฐานมีหนี้คงค้าง 38 ล้าน

ตามที่พรรคฝ่ายค้าน เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  โดยชี้เป้าว่านายศักดิ์สยามปกปิดทรัพย์สินและหนี้สิน ในส่วนที่เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น นั้น
      
จากการตรวจสอบเอกสารที่ นายศักดิ์สยาม ได้ยื่นแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  (ป.ป.ช) พบว่า ก่อนที่นายศักดิ์สยาม   จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 10  กรกฎาคม  2562

 

นายศักดิ์สยาม ได้เข้าบริหารกิจการของครอบครัวตระกูล "ชิดชอบ" ในการรับเหมาก่อสร้าง กับโรงโม่หิน โดยเข้าเป็นกรรมการบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์   1991  จำกัด (ประกอบกิจการโรงโม่หิน) และ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการไม่จำกัดความรับผิดของ ห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญคอนสตัคชั่น (ก่อสร้างทาง สะพาน ) 

 

นายศักดิ์สยามแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช เมื่อวันที่ 25  พฤษภาคม 2562 ว่า  มีทรัพย์สินรวม หลายรายการทั้งที่ดิน เงินสด รถยนต์ เบ็ดเตล็ด แยกเป็นเงินสด 75,365,505  บาท

 

ที่ดิน 33,055,275  บาท ยานพาหนะ 2,100,000 บาท ทรัพย์สินอื่นๆ 4,239,250  บาท  รวมทรัพย์สินทั้งสิ้น  115,760,030.56  บาท และยื่นบัญชีชี้แจงว่าไม่มีหนี้สิน  

แต่จากการตรวจสอบงบการเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตัคชั่น ตั้งแต่ปี 2559-2562 ที่รับรองจากผู้สอบบัญชี นายศักดิ์สยาม   ได้กู้ยืมเงินห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญคอนสตัคชั่น  จำนวนเงิน  96,000,000  บาท

เปิดหลักฐาน\"ศักดิ์สยาม\" แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเป็นเท็จหรือไม่

โดยกู้ยืมครั้งแรกเมื่อ ปี 2559 และชำระคืนล่าสุดปี 2561 จำนวน  31,000,000 บาท  คงเหลือหนี้สินที่ปรากฏในงบการเงิน และรายงานผู้สอบบัญชีว่ายังคงค้างหนี้สินจำนวน 38,000,000  บาท จึงถือได้ว่านายศักดิ์ ไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์ที่ถูกต้อง เพราะปกปิดการมีหนี้สินของตนเอง 


 

ที่สำคัญไม่แจ้งบ้านพักของตนเองในบัญชีทรัพย์สินทั้งๆที่ตนเองเป็นเจ้าบ้านและเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินอย่างแท้จริง

 

 แต่ไปแจ้ง ป.ป.ช.ว่า เป็นบ้านเช่าเดือนละ ๑๐,๐๐๐ บาท เท่านั้น  ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ปรากฏว่ามีการเช่าบ้านและที่ดินดังกล่าว แต่กลับมาแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช ว่า เช่าบ้านเพื่อเป็นที่พักอาศัย  และบ้านเลขที่ 30/2 หมู่ 15 เป็นบ้านของนายศักดิ์สยาม  โดยนายศักดิ์สยามเพิ่งจะให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญคอนสตัคชั่น ย้ายออก ก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรีเพียง 20 กว่าวันเท่านั้น

เปิดหลักฐาน\"ศักดิ์สยาม\" แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเป็นเท็จหรือไม่

 

 สรุปเป็นบ้านของนายศักดิ์สยาม หรือเป็นของบริษัท หากเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัด แล้วเหตุใดไปแจ้งว่า เช่าอยู่อาศัยกับบริษัทศิลาชัยบุรีรัมย์ ๑๙๙๑ จำกัด 

 

เปิดหลักฐาน\"ศักดิ์สยาม\" แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเป็นเท็จหรือไม่
นอกจากนี้หากดูภาพถ่ายที่พักของนายศักดิ์สยาม จะเห็นได้ว่าค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับราคาที่เช่า  
 

เปิดหลักฐาน\"ศักดิ์สยาม\" แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเป็นเท็จหรือไม่

สรุปพฤติกรรม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ  แจ้งบัญชีทรัพย์สิน ต่อ ป.ป.ช.

  • - ปี 2559   นายศักดิ์สยาม  ชิดชอบ  ในระหว่างที่เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนบุรีเจริญคอนสตัคชั่น   ได้กู้ยืมเงินของห้างหุ้นส่วนจำนวน  69  ล้านบาท

 

  • - เมื่อปี 2561  โอนหุ้นให้นายศุภวัฒน์  เกษมสุทธิ์  จำนวน 119,000,000  บาท  (โอนหุ้น)...แต่ไม่ได้โอนหนี้

 

  • - ปี 2561  ปรากฎว่ามีการใช้เงินคืนห้างจำนวน 31,000,000 บาท

 

  • - ปี 2562  ปรากฎในงบการเงินว่า ยังคงค้างชำระจำนวน 38,000,000 บาท (ไม่ปรากฏรายละเอียดใดว่ามีการคืนเงินแล้ว) ควรต้องยึดเอกสารทางราชการซึ่งเป็นเอกสารมหาชน   ยึดจากรายงานของผู้สอบ  ส่วนจะต่อสู้อย่างไรก็เป็นสิทธิผู้ถูกกล่าวหา

 

เปิดหลักฐาน\"ศักดิ์สยาม\" แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเป็นเท็จหรือไม่

  • - ปี 2562 นายศักดิ์สยาม    ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ระบุว่ามีทรัพย์สินแต่ไม่มีหนี้สิน

 

  • - นายศักดิ์สยาม    ระบุในการชี้แจงทรัพย์สิน  ต่อ ป.ป.ช. ว่ามีการเสียภาษี  เมื่อปี 2560,2561 ว่า มีรายได้จากการเป็นที่ปรึกษาของ บริษัท ศิลาชัย / หจก บุรีเจริญ

เปิดหลักฐาน\"ศักดิ์สยาม\" แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเป็นเท็จหรือไม่

  • - ปี 2562 จากการชี้แจงต่อ ป.ป.ช. ปรากฏข้อมูลว่ามีการยื่นเสียภาษี เพียง 23,756 บาท  เท่านั้น  

 

  • - ไม่ปรากฏว่าหมายเหตุงบการเงินว่ามีการยกหนี้จำนวน 38,000,000 บาท  ให้ /หากมีการยกให้ก็ไม่ปรากฎว่า นายศักดิ์สยาม  เสียภาษี ข้างต้น

 

  • - หากนายศักดิ์สยาม  อ้างว่ามีการชำระหนี้ดังกล่าวเอง  ถามว่าถอนเงินจากบัญชีใด ตรงกับเสตทเม้นตรงตามจำนวน 38 ล้านบาทหรือไม่  ถอนก่อนหรือหลังจากเข้ารับตำแหน่ง   ก่อนหรือหลังยื่นบัญชีทรัพย์สิน  มีหลักฐานการชำระหรือไม่  ถ้าบอกว่ายืมบุคคลอื่นมาก็จะเข้าเกณฑ์ไม่แจ้งว่ามีทรัพย์สินอีกหรือไม่

  

  • - ( แม้มีการโอนหุ้นแต่ไม่มีการโอนหนี้ และไม่มีหลักฐานใดๆในการชำระเงิน)