วันที่ 7 สิงหาคม 2565 "อุ๊งอิ๊ง- แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยอดีตนักโต้วาทีและนักปราศรัยฝีปากกล้าอย่าง “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้เดินทางไปทำกิจกรรมของพรรค ด้วยการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS เชียงราย
โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ การเปิดตัวแนะนำว่าที่ผู้สมัครของพรรค ที่จะลงเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งหน้า และแน่นอนว่าเมื่อมีเวทีปราศรัย ผู้ปราศรัยแต่ละคน จึงถือโอกาสโจมตีนายกรัฐมนตรี การทำงานของรัฐบาล และโจมตีการรัฐประหาร ซึ่งก็ได้สร้างความชอบใจ เรียกเสียงปรบมือจากมวลชนคนเสื้อแดงกว่า 4,000 คน ที่แห่เดินทางไปร่วมกิจกรรมจนล้นศูนย์ประชุมฯ บางส่วนต้องออกมานั่งฟังการปราศรัยทางด้านนอกรวม โดยมีทีมงานจัด Live สดกันไปในหลายช่องทาง
จังหวัดเชียงราย ดินแดนเหนือสุดแดนสยาม เป็นพื้นที่ที่พรรคไทยรักไทย, พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย เคยครองที่นั่ง ส.ส.เขตแบบยกจังหวัดมานาน เพิ่งจะมีก็แต่การเลือกตั้งครั้งล่าสุด ซึ่งความแรงของกระแสพรรคอนาคตใหม่ในหมู่เยาวชน ได้ช่วยให้ผู้สมัครใน 2 เขต ชนะการเลือกตั้งได้เก้าอี้ ส.ส.ไปครอง นั่นก็คือ นพ.เอกภพ เพียรวิเศษ ส.ส.เขต 1 และ พีรเดช คำสมุทร ส.ส.เขต 6
ส่วนที่เหลืออีก 5 เขต ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยยังรักษาเก้าอี้ไว้ได้อันประกอบด้วย วิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เขต 2, วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เขต 3, รังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ ส.ส. เขต 4, พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เขต 5 และละออง ติยะไพรัช ส.ส.เขต 7
ฮือฮา ทายาท“จงสุทธนามณี”สวมเสื้อ"เพื่อไทย"
บนเวทีการเปิดตัวผู้สมัคร ผู้ที่สร้างความฮือฮามากที่สุดเห็นจะเป็น “ต้นน้ำ” ร.ต.อ.ธนรัช จงสุทธานามณี ซึ่งจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตที่ 1 (พื้นที่อยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงรายเป็นส่วนใหญ่)
เห็นนามสกุลแล้วไม่ต้องแปลกใจ เพราะหนุ่ม “ต้นน้ำ" คือบุตรชายคนโตของ วันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย และ รัตนา จงสุทธนามณี อดีต ส.ส.เชียงราย อดีตนายก อบจ.เชียงราย ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครเชียงราย และนายกสมาคมกีฬาจังหวัดเชียงราย นั่นเอง
ส่วนคนอื่นประกอบด้วย วิกรม เตชะธีราวัฒน์ บุตรชายของ วิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ ซึ่งจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตที่ 2 แทนบิดา, เขต 3 วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ อดีต ส.ส.เชียงราย เขต 3 บุตรสาวของ วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ที่จะกลับมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในเขตเดิมแทนบิดา, อิทธิเดช แก้วหลวง อดีต ส.ส.เขต 6 จะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเดิม ที่เหลือ ส.ส.ปัจจุบันลงเขตเดิม
นอกจากนี้ยังมี มงคลชัย ดวงแสงทอง อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย และอดีต ส.ว.เชียงราย ที่จะลงรับสมัครแบบบัญชีรายชื่อ
โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า ยังไม่มีการประกาศตัวว่าที่ผู้สมัครในเขตที่ 8 ซึ่งเป็นเขตใหม่ที่จังหวัดเชียงรายจะมีส.ส.เพิ่ม ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุนั้นเชื่อว่า “ขาใหญ่” นักเลือกตั้งในจังหวัดเชียงราย คงยังตกลงกันไม่ได้ เรื่องตัวบุคคล การวางตัวบุคคลจึงยังคงต้องรออีกสักระยะ
อุ๊งอิ๊ง” บอก “ทักษิณ” อยากเห็นการปรองดอง!!!
บนเวที่ปราศรัย “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร บอกในตอนหนึ่งว่ เพิ่งเดินทางไปเยี่ยม “ทักษิณ” และ “ยิ่งลักษณ์”บิดาและคุณอาของตนมา ทั้ง 2 ท่านฝากความคิดถึงมาถึงชาวเชียงราย บิดาของตนตั้งใจมาก หากได้กลับประเทศอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ไม่เป็นศัตรูกัน เพราะประชาชนกำลังประสบปัญหาใหญ่ คือสงครามเศรษฐกิจที่กำลังถาโถมเข้ามา
การเมืองไทยต้องก้าวไปข้างหน้าเพื่อให้ประชาชนพ้นจากความทุกข์ยาก การเลือกตั้งเมื่อแล้วเสร็จ แม้ว่ามีฝ่ายชนะและฝ่ายแพ้ แต่หลังจากนั้นควรจะจับมือกันเพื่อพัฒนาประเทศชาติ ส่วนระบบการลงคะแนนพรรคเพื่อไทยพร้อมรับการเลือกตั้ง ไม่ว่ากฎกติกาจะเป็นอย่างไร
“ปัจจุบันอำนาจอยู่ในมือของผู้ที่ไม่มีวิสัยทัศน์ และมีระบบราชการที่ไม่ตอบโจทย์ของประชาชน หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นผู้นำรัฐบาล จะเร่งการแก้ไขและให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน และเข้าถึงแหล่งทำมาหากินใหม่ ๆ ให้คนทุกรุ่นทุกวัยสามารถหารายได้ได้ด้วยตัวเอง
จะส่งรัฐมนตรีลงไปทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด และให้ปราชญ์ผู้รู้เข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนา เชียงรายมีศักยภาพของชายแดน และกำลังจะพัฒนาในยุคที่อาปู-ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็ถูกปฏิวัติเสียก่อน เชียงรายจึงเสียโอกาสไปอย่างมาก คุณพ่อเล่าเสมอว่า 50 ปีก่อนดูไบไม่มีอะไรเลย ตอนนี้ประเทศเขาที่มีทุกอย่าง เป็นประเทศที่ใครก็อยากไปเที่ยวและไปลงทุน
เชียงรายจะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด อีก 6 เดือนหลังจากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล เราจะกลับมาเชียงรายอีกครั้ง เพื่อร่วมกันระดมความคิดเห็นพัฒนาจังหวัดเชียงราย” แพทองธาร ระบุ
มั่นใจ! เชียงราย “เพื่อไทย” ยกจังหวัด
หลังปราศรัยเสร็จ ทันทีที่ลงมาจากเวทีมา “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธารยังย้ำกับสื่อมวลชนด้วยว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่รู้จริงเรื่องภาคเหนือ จึงมั่นใจว่าหลายจังหวัดในภาคเหนือผลการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์จะเกิดขึ้นอีก มั่นใจว่าผู้สมัครของพรรคสู้ผู้สมัครจากพรรคอื่นได้ เพราะพรรคเพื่อไทยมีคำตอบให้กับทุกปัญหา
ไม่เฉพาะแต่ที่จังหวัดเชียงายแต่เป็นทุกปัญหาของประเทศ ที่ผ่านมา ส.ส.ของพรรคลงพื้นที่และรับทราบปัญหาต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องปัญหาทุกอย่างไม่มีใครรู้ดีไปกว่าคนพื้นที่ บวกกับนโยบายหลักของพรรคที่เป็นคำตอบให้กับประเทศได้ จึงมั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งหน้าแลนสไลด์แน่นอน
ยังกั๊ก! ไม่ยอมรับว่าเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค
ต่อคำถามของสื่อมวลชนที่ว่า พร้อมที่จะแคนดิเดตในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปแล้วหรือยัง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยบอกว่า เป็นคำถามยอดฮิต ขึ้นเวทีทุกครั้งเมื่อลงมาจะต้องมีผู้สื่อข่าวมาถาม ตนอยากจะบอกอย่างนี้ว่า คนที่เหมาะสมที่สุด(กับการเป็นนายกรัฐมนตรี) คือคนที่ประชาชนไว้ใจที่สุด และคน ๆ นั้นควรที่จะเป็นผู้นำพาประเทศไปสู่การพัฒนา พรรคการเมืองทุกพรรคมีหน้าที่นำเสนอคน ๆ นั้นให้ประชาชนได้ตัดสินใจ ว่าจะลงคะแนนเสียงให้หรือไม่ หากว่าคน ๆ นั้นเป็นคนที่ประชาชนส่วนใหญ่เลือก ก็สมควรที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีตามครรลองของประชาธิปไตย
เลือดใหม่ชูตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษภาพยนตร์
ด้าน ร.ต.อ.ธนรัช จงสุทธามณี หรือ "ต้นน้ำ" กล่าวว่า ที่ผู้สมัครเชียงรายเขต 1 บอกว่า ที่ผ่านมาภาพยนตร์จากต่างประเทศมีอิทธิพลอย่างมากต่อสังคมไทย เห็นได้อย่างชัดเจนว่าช่วง 10 ปีหลังมานี้ ซีรี่ย์เกาหลีมีอิทธิพลมากขึ้น ตนจึงมีแนวคิดว่าประเทศไทยเราก็ทำได้ และพรรคเพื่อไทยก็เชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพ
ตนจึงจะเสนอให้มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษภาพยนตร์ขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และมีต้นทุนทางด้านการท่องเที่ยวที่ดีอยู่แล้วสำหรับการต้อนรับกองถ่ายทำภาพยนตร์ รวมทั้งยังมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง การพัฒนาเรื่องนี้แม้ไม่ง่าย แต่ต้องมีการเตรียมการ ที่ผ่านมาการขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ต้องขออนุญาตจากหลาย ๆ หน่วยงาน หากเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาพยนตร์ จะทำให้การขออนุญาตทำได้ในจุดเดียวแบบวันสต็อปเซอร์วิส
รวมทั้งจะเสนอให้มีการยกเว้นภาษีสำหรับบริษัทภาพยนตร์ ที่ไปสร้างสำนักงานใหญ่ในพื้นที่ซึ่งจะสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ให้คนไทยเราด้วย
ปิดฉากสงครามตระกูลการเมืองเชียงราย?
บทสรุปจากการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขตของจังหวัดเชียงราย เมื่อพรรคเพื่อไทยสามารถโน้มน้าวคนของตระกูล “จงสุทธนามณี” ให้มาเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เชียงรายได้ การเลือกตั้งของจังหวัดเชียงรายในหลายระดับ ที่เคยเป็นสนามประลองกำลังกันระหว่างตระกูล “จงสุทธนามณี” กับตระกูล “ติยะไพรัช” ซึ่งมีหัวหมู่ทะลวงฟันอย่าง “ยุทธตู้เย็น” ยงยุทธ ติยะไพรัช ก็เป็นอันจบสิ้นลงแบบชั่วคราว หรืออาจจะจบลงแบบถาวร
งูเห่าก้าวไกลเจองานยากแน่นอน
ขณะที่ นพ.เอกภพ เพียรวิเศษ ส.ส.เชียงรายเขต 1 และ พีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงรายเขต 6 ซึ่งปัจจุบันเป็น “งูเห่า” อยู่ในพรรคก้าวไกล การเลือกตั้งครั้งต่อไปมีแนวโน้มสูงว่าจะลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย ที่มี “หมอหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกุล เป็นหัวหน้าพรรค และมีที่ปรึกษาใหญ่ของพรรคชื่อ “เนวิน ชิดชอบ” ซึ่งต้องบอกว่าคงไม่ง่ายนักที่จะชนะในการการเลือกตั้ง
บทสรุปจากการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยในวันที่ 7 สิงหาคม 2565 กูรูการเมืองที่จังหวัดเชียงรายค่อนข้างมั่นใจว่า “พรรคเพื่อไทย” จะกลับมายึดครองเก้าอี้ ส.ส.เขตของจังหวัดเชียงรายได้แบบยกจังหวัด
หรือแลนด์สไลด์...อีกครั้ง
จริงหรือไม่จริง...ประชาชนผู้ลงคะแนนเลือกตั้งคือผู้กำหนด!!!
บทสรุปจากเวทีการปราศรัยใหญ่เมื่อวันที่ 7สิงหาคม 2565 พรรคเพื่อไทยวางตัวผู้สมัครส.ส.ของพรรคในการเลือกตั้งครั้งใหม่ ดังนี้ เลือกตั้งครั้งหน้า
เขต 1 ร.ต.อ.ธนรัช จงสุทธามณี
เขต 2 นายวิกรม เตชะธีราวัฒน์
เขต 3 นางสาววิสาระดี เตะธีระวัฒน์
เขต 4 นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์
เขต 5 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมือพาน
เขต 6 นายอิทธิเดช แก้วหลวง
เขต 7 นางสาวละออง ติยะไพรัช
เขต 8 (เพิ่มมาจากเดิมที่มีแค่ 7 เขต) ยังไม่ประกาศตัวผู้สมัคร
ชัยณรงค์ สีนาเมือง/รายงาน