เปิดผลสอบฟัน 3 นายตำรวจเลินเล่อ “คดีแตงโม” ผิดวินัยไม่ร้ายแรง

09 ส.ค. 2565 | 07:19 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ส.ค. 2565 | 14:48 น.

ผลสอบ 3 นายตำรวจ “คดีแตงโม” “พล.ต.ต.วสันต์-พล.ต.ต.ไพศาล-พ.ต.อ.จาตุรนต์” ผิดวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความตั้งใจ อุตสาหะ และประมาทเลินเล่อปมเสนอสื่อประชาสัมพันธ์ไม่เหมาะสม-ไม่ตรวจสอบ และเก็บรักษาเรือของกลาง "พล.ต.ท.จิรพัฒน์" รอด

วันที่ 9 สิงหาคม 2565 พล.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนรองจเรตำรวจแห่งชาติ (สบ 9) ปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งผลการร้องเรียนไปยังนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ผู้ร้องเรียน ตามหนังสือที่ ตช 0001(ที่ปรึกษาพิเศษ 2) 235 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2565 ใจความว่า


ตามหนังสือร้องเรียนท่าน ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 ร้องขอให้ตั้งกรรมการสอบวินัย พล.ต.โทจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภาค 1, พลต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี 

และร้องขอให้ย้ายประจำศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในคดี นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ (แตงโม) ที่สร้างความเสียหายให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการสั่งการให้ถูกต้องเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่กระทำการรวบรวมพยาน และหลักฐานทุกชนิดเท่าที่สามารถจะทำได้ เพื่อประสงค์จะทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่างๆ อันเกี่ยวกับความผิด เพื่อจะรู้ตัวผู้กระทำผิดและพิสูจน์ให้เห็นถึงความผิด 


และนำข้อมูลเท็จหรือพยานหลักฐานอันเป็นเท็จเข้าสู่สำนวนการสืบสวนสอบสวน และไม่ทำคดีชันสูตรการตาย, ไม่ตรวจ สารเสพติด นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131 และ 131/3 และไม่อายัดเรือของกลางตั้งแต่แรก ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น

คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว มีความเห็น ดังนี้


1.พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ผู้ถูกร้องเรียนที่ 1 ในชั้นนี้ไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่สมควรกล่าวหาว่า พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ผู้ถูกร้องเรียนที่ 1 มีมูลความผิดวินัย


2.พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ผู้ถูกร้องเรียนที่ 2 มีมูลความผิดวินัย ในฐานะผู้บังคับบัญชาไม่กำกับ ดูแล ตรวจสอบรายละเอียดเนื้อหาในการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ ทั้งก่อนและหลังการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ก่อนนำออกเผยแพร่ ให้มีความเหมาะสมและ เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อันเป็นความผิดวินัยไม่ ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วย ความตั้งใจ อุตสาหะ เพื่อให้เกิดผลดีหรือความก้าวหน้าแก่ราชการ เอาใจใส่ ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ และประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พุทธศักราช 2547 มาตรา 78(9)


3.พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ผู้ถูกร้องเรียนที่ 3 มีมูลความผิดวินัย ในฐานะผู้บังคับบัญชาไม่กำกับ ดูแล ตรวจสอบรายละเอียดเนื้อหา ในการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ ทั้งก่อนและหลังการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ก่อนนำออกเผยแพร่ ให้มีความเหมาะสมและเกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อันเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความตั้งใจ อุตสาหะ เพื่อให้เกิดผลดีหรือความก้าวหน้าแก่ราชการ เอาใจใส่ ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ และประมาท เลินเล่อในหน้าที่ราชการ ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พุทธศักราช 2547มาตรา 78(9)


4.พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี ผู้ถูกร้องเรียนที่ 4. กรณีในฐานะของผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนของ สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี ตามคำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 354/2562 ลง 20 มิ.ย. 62 ข้อ 6 มีหน้าที่รับผิดชอบเก็บรักษาเรือของกลาง ตามระเบียบตำรวจเกี่ยวกับคดี  ลักษณะที่ 15 ของกลางและของส่วนตัวผู้ต้องหา บทที่ 1 ข้อ 422 ตามหนังสือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 0004.6/11197 ลง 9 กันยายน 2545 เรื่อง ซักซ้อม แนวทางปฏิบัติในการเก็บรักษาของกลาง ซึ่งไม่ได้ดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบ และคำสั่งที่กำหนด 


อันเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความตั้งใจ อุตสาหะ เพื่อให้เกิดผลดีหรือความก้าวหน้าแก่ ราชการ เอาใจใส่ ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ และประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ตาม พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พุทธศักราช 2547มาตรา 78(9)


ส่วนประเด็นอื่นๆ ในชั้นนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่สมควรกล่าวหาว่า พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม, พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล  และ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต  ผู้ถูกร้องเรียนที่ 4 มีมูลความผิดวินัย ด้วยเหตุผล ความจำเป็นทางคดี และพยานหลักฐานต่างๆ ที่ผู้ถูกร้องเรียน กล่าวอ้างนั้น รับฟังได้
ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้เสนอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาสั่งการต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว