วันที่ 10 ส.ค. 65 ที่รัฐสภา นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. …. รัฐสภา กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 10 สิงหาคมว่า
การประชุมในวันนี้จะมีผลออกได้ 3 ประการคือ 1) หากองค์ประชุมไม่ครบ คือล่มตั้งแต่ช่วงเช้า หรือจะไปล่มตอนกลาง จะทำให้ร่าง พ.ร.ป.ทั้งฉบับและสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการหาร 500 ต้องแท้งไป ส่งผลให้ต้องกลับไปใช้ร่าง พ.ร.ป.ของรัฐบาลที่หาร 100
นพ.ระวีกล่าวว่า 2) หากครบองค์ประชุมอยู่ตลอดอาจจะทำให้ผ่านร่าง พ.ร.ป. ในวาระ 2 ช้าหรือเร็วก็ต้องดู เพราะอาจจะใช้เวลาผ่านมาตราละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง แต่สุดท้ายอาจจะถูกคว่ำในวาระ 3 คือจะแท้งไปทั้งหาร 100 และหาร 500 จึงต้องกลับไปเริ่มต้นกฎหมายลูกกันใหม่ หรืออาจจะแก้รัฐธรรมนูญใหม่เป็นบางมาตราหรือไม่
และ 3) ร่าง พ.ร.ป.สามารถผ่านวาระ 3 ไปได้ และจะเข้าสู่การตรวจสอบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ก็อาจจะมีคนร้องศาลรัฐธรรมนูญว่าหาร 500 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
นพ.ระวีกล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงที่คนใกล้ชิดของท่าน ทั้งในพรรค พปชร. และ ส.ว. ออกมาเรียกร้องให้ ส.ส.และ ส.ว.กลับบ้าน ส่วนรัฐมนตรีพรรค พปชร.ยังออกมาบอกอย่างชัดเจนว่าเห็นด้วยกับหาร 100 จึงทำหลายคนตั้งข้อสงสัยว่ามีการผสมพันธุ์กันระหว่างสองผู้นำพรรคใหญ่ในสภาหรือไม่
“หาก พล.อ.ประวิตรยังบอกว่าไม่รู้และไม่เกี่ยว ถ้าสภาล่มวันนี้ผมสงสารท่าน เพราะท่านไม่ได้เกี่ยวจริงๆ และจะกลายเป็นแพะรับบาป สังคมจะต้องจู่โจมว่าเป็นคนฆ่าน้อง ทั้งที่รู้ว่าหาร 100 ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล ถ้าไม่รู้จริงๆ ต้องออกมาประกาศแล้วโทรไปหา ส.ส.พรรค พปชร.ทุกคนว่าไม่ได้สั่งการให้ไม่ให้เข้าประชุม
และต้องสั่งให้เหมือนสั่งพรรคเล็กให้โหวตรัฐมนตรีทุกคนเท่ากันในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่าปล่อยไว้เป็นแบบนี้ ไม่เช่นนั้นจะถูกคนใกล้ชิดซึ่งส่วนมากอดีตมาจากพรรคเพื่อไทย (พท.) มาทำลาย 3 ป. ฟอร์เอเวอร์” นพ.ระวีกล่าว
นพ.ระวีกล่าวด้วยว่า เรียกร้องให้ ส.ส.พรรค พปชร.มาร่วมประชุม ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับการหาร 500 ถ้าท่านเห็นด้วยกับหาร 100 ก็ใช้สิทธิตามความคิดของท่าน แต่ถ้าเห็นด้วยกับหาร 500 ก็มาร่วมโหวตผ่านวาระ 3