เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศ ระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการคัดเลือกตุลาการศาลปกครองสูงสุด ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ประธานแผนกในศาลปกครองสูงสุด รองประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานศาลปกครองสูงสุด (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๕
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการคัดเลือกตุลาการศาลปกครองสูงสุด ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ประธานแผนกในศาลปกครองสูงสุด รองประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานศาลปกครองสูงสุด พ.ศ. ๒๕๖๐ ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ วรรคสี่ และมาตรา ๑๕/๑ วรรคสาม แห่ง พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๐ ก.ศป. โดยความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการคัดเลือกตุลาการศาลปกครองสูงสุด ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ประธานแผนกในศาลปกครองสูงสุด รองประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานศาลปกครองสูงสุด (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๕”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๕ ของระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการคัดเลือกตุลาการ ศาลปกครองสูงสุด ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ประธานแผนกในศาลปกครองสูงสุด รองประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานศาลปกครองสูงสุด พ.ศ. ๒๕๖๐ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๕ การคัดเลือกตุลาการในศาลปกครองชั้นต้นเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่ง ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ให้ ก.ศป. พิจารณาจากผู้ดํารงตําแหน่งอธิบดีศาลปกครองชั้นต้น รองอธิบดี ศาลปกครองชั้นต้น ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นต้น หรือตําแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่เทียบเท่า โดยพิจารณาตามลําดับอาวุโสและระยะเวลาการดํารงตําแหน่ง ประกอบกับความรู้ความสามารถความรับผิดชอบ ความเหมาะสม ประวัติและผลงานการปฏิบัติราชการ และประโยชน์ของทางราชการ เป็นสําคัญ
โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ได้รับการพิจารณาคัดเลือกนั้น เว้นแต่มีอายุราชการคงเหลือไม่เกินหนึ่งปีนับจากวันสิ้นปีงบประมาณที่ดําเนินการคัดเลือก หรือมีเหตุจําเป็นอื่นตามที่ ก.ศป. เห็นสมควร
ผู้ดํารงตําแหน่งที่จะได้รับการคัดเลือกเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งเป็นตุลาการศาลปกครองสูงสุด ตามวรรคหนึ่ง จะต้องมีระยะเวลาการดํารงตําแหน่งนับถึงวันสิ้นปีงบประมาณที่ดําเนินการคัดเลือก ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นอธิบดีศาลปกครองชั้นต้นมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี
(๒) เป็นรองอธิบดีศาลปกครองชั้นต้นมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี
(๓) เป็นตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นต้นมาแล้วไม่น้อยกว่าเจ็ดปี
ในกรณีที่ตุลาการศาลปกครองโอนไปดํารงตําแหน่งเลขาธิการสํานักงานศาลปกครอง และ ต่อมาโอนกลับเข้ามาดํารงตําแหน่งตุลาการศาลปกครอง ให้นําระยะเวลาที่โอนไปดํารงตําแหน่งเลขาธิการ สํานักงานศาลปกครองและลําดับอาวุโสมานับและเทียบรวมเป็นระยะเวลาการดํารงตําแหน่งนั้น ๆ ด้วย
กรณีมีความจําเป็นหรือมีเหตุอันควรที่จะต้องดําเนินการเพื่อประโยชน์อย่างยิ่งแก่ราชการศาลปกครอง ก.ศป. อาจมีมติด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนกรรมการตุลาการศาลปกครองทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ยกเว้นความในวรรคหนึ่งและวรรคสองได้
การเสนอรายชื่อผู้ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งตุลาการ ศาลปกครองสูงสุด ให้เสนอรายชื่อตามลําดับอาวุโสในขณะดํารงตําแหน่งตุลาการในศาลปกครองชั้นต้น”
ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ ๒ ของระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการคัดเลือก ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ประธานแผนกในศาลปกครอง สูงสุด รองประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานศาลปกครองสูงสุด พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการคัดเลือกตุลาการศาลปกครองสูงสุด ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครอง สูงสุด ประธานแผนกในศาลปกครองสูงสุด รองประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานศาลปกครองสูงสุด (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๗ ให้มีคณะอนุกรรมการดําเนินการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งตุลาการ ศาลปกครองสูงสุดคณะหนึ่ง ประกอบด้วย ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานอนุกรรมการ รองประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานแผนกในศาลปกครองสูงสุด ทุกคน เป็นอนุกรรมการ
ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕
ชาญชัย แสวงศักดิ์
ประธานศาลปกครองสูงสุด
ประธานกรรมการตุลาการศาลปกครอง