‘อุตตม’แนะรัฐปรับแผนใช้งบฯ รับความเสี่ยงศก. หลังจีนลดดอกเบี้ย

17 ส.ค. 2565 | 06:23 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ส.ค. 2565 | 14:10 น.

‘อุตตม’แนะ รัฐบาลปรับแผนใช้งบประมาณ เตรียมรับ"ความเสี่ยง" หลังจีนปรับลดดอกเบี้ยส่งสัญญาณเศรษฐกิจโลกผันผวน

วันที่ 17 สิงหาคม 2565 นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น หลังจากธนาคารกลางจีน ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ว่า ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง มีเหตุผลมาจากการที่รัฐบาลจีน กังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศที่เริ่มมีสัญญาณการชะลอตัวลง

 

โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญหลักของระบบเศรษฐกิจ สัญญาณดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ที่กำลังเผชิญกับปัญหาภาวะเงินเฟ้อในขณะนี้

 

ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีน มีท่าทีว่าจะทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น จะมีอิทธิพลต่อบรรยากาศการค้าขายและการลงทุน รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวม
 

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย

นายอุตตม ระบุว่า สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว ถูกคาดหวังว่าจะเป็นหัวจักรฉุดให้เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวในปลายปีนี้ แต่หากการขยายตัวของทั้งสองภาคเศรษฐกิจนี้ไม่เป็นไปตามที่หน่วยงานรัฐคาดการณ์และประกาศไว้ ประกอบกับเศรษฐกิจภายในยังเปราะบางมาก ก็จะเป็นการยากที่เศรษฐกิจของประเทศไทยจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นและคาดหวังไว้

 

ด้วยเหตุนี้ การเตรียมการณ์ล่วงหน้าโดยใช้เครื่องมือที่มีอยู่ทั้งการเงินและการคลัง เป็นสิ่งจำเป็นในช่วงนับต่อจากนี้ไปจนถึงปีหน้า โดยงบประมาณของประเทศจะเป็นเครื่องมือหลักของรัฐบาลในการบริหารเศรษฐกิจ ที่ต้องดูแลทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ

 

รวมถึงการลงทุน สร้างงานและกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าสู่การฟื้นตัวได้อย่างแท้จริง ไม่กลับมาถดถอยเพราะความเสี่ยงที่กำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งความพยายามในการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณให้ได้ตามเป้าหมายจะเป็นประโยชน์ แต่ยังคงไม่เพียงพอที่จะรองรับกับเหตุการณ์ในอนาคตข้างหน้าได้

ดังนั้นการทบทวนปรับงบประมาณ เพื่อให้รัฐบาลสามารถใช้งบฯ เพื่อบริหารความเสี่ยง และตอบโจทย์ผลักดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ จะมีความจำเป็นอย่างยิ่ง แต่ด้วยสถานการณ์การเมืองที่เราเห็นในปัจจุบัน การทบทวนงบประมาณคงเกิดขึ้นได้ยาก หรือแทบจะพูดได้ว่าเป็นไปไม่ได้

 

หมายความว่าเราคงต้องรอหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการทบทวนงบประมาณ โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ที่สามารถพลิกผันต่อไปได้อีกอย่างรวดเร็ว

 

นายอุตตม ระบุว่า ต้องยอมรับว่า การเมืองเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดชะตาอนาคตของประเทศ ดังนั้นในการเลือกตั้งที่จะมาถึงข้างหน้านี้ เชื่อว่าประชาชนอยากเห็นพรรคการเมืองแข่งขันกันนำเสนอนโยบายด้านเศรษฐกิจที่มุ่งนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากภาวะชะงักงันและก้าวหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง ไม่น้อยหน้าประเทศอื่นที่เผชิญกับความท้าทายด้านเศรษฐกิจในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

 

จากภาพนี้ เห็นได้ว่าเศรษฐกิจไทยมีอัตราการขยายตัวของจีดีพี ที่สิ้นไตรมาสสองของปีนี้ ต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งทุกประเทศก็ถูกกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจโลก โควิด-19 และความท้าทายอื่นๆ ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน

 

“พวกเราคงไม่อยากเห็นภาพเช่นนี้ยังมีต่อไปในอนาคต และหวังให้ประเทศไทยอยู่แถวหน้าในกลุ่มประเทศอาเซียน ความเปลี่ยนแปลงจากภาวะปัจจุบันที่ประเทศกำลังเผชิญจะเกิดขึ้นได้นั้น อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งต่อไปครับ” นายอุตตม กล่าว