พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วเสียงเอก รองผู้บัญชาการ ตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวว่า ในวันนี้ (23 ส.ค.) มีรายงานว่าจะมี การชุมนุมรวม 6 จุด ได้แก่
- กลุ่มสภาประชาชนแห่งชาติ และกลุ่มชาวยูเครนในประเทศไทย บริเวณหน้าสถานทูตรัสเซีย ที่มีการชุมนุมยืดเยื้อมานานแล้ว
- กลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล
- กลุ่มรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย บริเวณรัฐสภา
- กลุ่มหลอมรวมประชาชน และกลุ่มราษฎรคนเสื้อแดง บริเวณลานคนเมือง
- กลุ่ม 14 ขุนพล กลุ่มแดงก้าวหน้า และกลุ่มทะลุแก๊ส บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
- กิจกรรมยืนหยุดขัง 3 จุด กลุ่มวีโวรันเทียร์ บริเวณหน้าสำนักงานอัยการสูงสุด กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และกลุ่มพลเมืองโต้กลับ บริเวณหน้าศาลฎีกา
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (24 ส.ค.) มีรายงานว่ามีการ นัดชุมนุม 3 จุด ได้แก่
- กลุ่มคนแดงปฏิวัติ บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล
- กลุ่มหลอมรวมประชาชน บริเวณลานคนเมือง และ
- กลุ่ม 14 ขุนพล และกลุ่มราษฎร บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
"ข้อมูลขณะนี้ ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะปักหลักค้างคืน และยังไม่มีความแน่นอนว่าจะมีการเคลื่อนขบวน แต่ได้ย้ำเตือนแล้วว่าการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธแม้จะทำได้ แต่การเคลื่อนผู้ชุมนุมต้องปฏิบัติตามมาตรการที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนด" พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าว
ทั้งนี้ ขอแจ้งเตือนให้ทราบว่า
- การชุมนุมอาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งขัดต่อประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
- ถึงแม้จะเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ จะสามารถดำเนินการได้ แต่ผู้จัดการชุมนุมยังต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และ
- การชุมนุมในพื้นที่ที่ส่วนราชการจัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องแจ้งขออนุญาตตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ แต่หากมีการเคลื่อนขบวนก็ต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และต้องปฏิบัติตามมาตรการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน อีกทั้งพนักงานยังสามารถสั่งให้ยุติ ระงับ ยับยั้งการชุมนุมได้ ทั้งนี้ หากมีการฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โฆษก บช.น. กล่าวว่า พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.ได้สั่งการให้จัดเตรียมกำลังพล พร้อมยุทโธปกรณ์ เพื่อปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมมอบหมายให้มีผู้บัญชาการเหตุการณ์ในแต่ละพื้นที่ไว้แล้ว โดยกำชับให้ปฏิบัติตามกรอบกฎหมายอย่างเคร่งครัด และขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางใกล้พื้นที่ชุมนุม
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีเกี่ยวกับการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพฯ มีทั้งสิ้น 848 คดี ดำเนินการสอบสวนและสั่งฟ้องไปแล้ว 497 คดี คงเหลือ 351 คดี
อย่างไรก็ตาม การปิดการจราจรนั้นจะพิจารณาไปตามสถานการณ์ โดยคำนึงถึงการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ยกเว้นจะก่อให้เกิดความวุ่นวาย และเป็นอันตรายต่อประชาชนและสถานที่ ซึ่งเป็นดุลพินิจของผู้บัญชาการเหตุการณ์ในแต่ละจุด