วันนี้ 26 ส.ค.2565 พรรคไทยสร้างไทย นำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายอุดมเดช รัตนเสถียร นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น นายประวัฒน์ อุตตะโมช พร้อมทั้ง นายสุพันธุ์ มงคลสุธี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย และอดีตประธานสภาอุตสาหกรรม ร่วมเปิดตัวผู้สมัครส.ส.อุดรธานี 7 เขตเลือกตั้ง ที่ลานคนเมือง อ.บ้างดุง จ.อุดรธานี
พร้อมเปิดงาน "มหกรรมอุดร…ม่วนชื่น" ซึ่งถือเป็นการจัดงาน ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อเนื่อง เป็นการคืนความสุขพร้อมการสร้างรายได้ให้ชาวอุดร โดยอาศัยพลัง Soft power มาต่อยอดสินค้า OTOP ในแต่ละชุมชน สร้างเศรษฐกิจชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม
คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ขึ้นเวทีท่ามกลางประชาชนมาร่วมรับฟังอย่างล้นหลามนับหมื่นคน ประกาศพลิกฟื้นเศรษฐกิจอิสาน พร้อมระบุว่า ตนเองในฐานะลูกอิสาน ขอทำให้ชาวอิสานกระเป๋าตุงภายใน 3 ปี และมั่นใจในความรู้ความสามารถ ที่ทำงานให้ประชาชนมา 30 ปี
“จะจับมือร่วมทำงานร่วมกับประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืน ตั้งแต่การลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มคุณภาพผลผลิต และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อทำเกษตรแบบแม่นยำ รวมทั้งการทำการแปรรูป ทำตลาดให้เกษตรกร พร้อมสร้างกลไกให้เกษตรกรกำหนดราคาสินค้าของตนเองได้ เพื่อให้สินค้าเกษตรราคาดี โดยตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง "ผลิตอาหารส่งออกไปทั่วโลก"
คุญหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานี เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ สามารถสร้างให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษด้านการค้าชายแดน ด้วยการเชื่อมรถไฟความเร็วสูง เป็นศูนย์การแพทย์ให้กับประเทศเพื่อนบ้าน และที่สำคัญจ.อุดรธานี จะต้องมีมหาวิทยาลัยอุดรธานี เพื่อรองรับการศึกษาให้กับเยาวชนในพื้นที่อีสานตอนบน และเป็นศูนย์กลางการศึกษาให้กับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว ได้เข้ามาศึกษาในจ.อุดรธานี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในเขต 4 คือ นายโชคเสมอ คำมุงคุณ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบ้านดุง และเป็นอดีตเลขานุการรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และยังได้เปิดว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อุดรธานี อีก 7 เขต
นายโชคเสมอ กล่าวว่า มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาจ.อุดรธานี เช่น การส่งเสริมการส่งออกและนำเข้าสินค้าเกษตร อุตสาหกรรม ระหว่างภูมิภาคอินโดจีน โดยเฉพาะการมีศูนย์พักขนถ่ายสินค้าในจ.อุดรธานี พร้อมสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยอุดรธานี เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านตลาดวิชาการภายในภูมิภาคอินโดจีนและประชาคมโลก
นอกจากนี้ รวมถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนของ จ.อุดรธานี ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นอัตลักษณ์ประจำภูมิภาค โดยตั้งใจจะพัฒนาโครงข่ายด้านการคมนาคม เพื่อลดปัญหาการจราจรที่แออัด ในตัวเมือง