วันที่ 1 ก.ย.2565 ที่โรงแรม สุโกศล นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมสูญ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และนายสุทัศน์ เงินหมื่น อดีต รมว.ยุติธรรม แถลงข่าว กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติยื่นฟ้องคดีอาญา นายนิพนธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา กรณีละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ให้แก่ บริษัท พลวิศว์ เทคพลัส จำกัด
นายวสันต์ ในฐานะหัวหน้าทีมทนายความของนายนิพนธ์ กล่าวถึงเหตุผลที่รับทำคดีให้นายนิพนธ์ ว่านายสุทัศน์ ซึ่งเป็นรุ่นพี่นิติศาสตร์ แนะนำให้นายนิพนธ์ มาคุยกับตน เมื่อดูเรื่อราว และดูเอกสาร จากประสบการณ์ในวงการยุติธรรม รู้เลยว่ารูปคดีเป็นอย่างไร รู้เลยว่า นายนิพนธ์ ไม่ได้รับความไม่เป็นธรรม จึงรับเป็นทนายให้
พร้อมกล่าวสรุปคดีว่า อบจ.สงขลา ต้องการซื้อรถบรรทุกเอนกประสงค์ 2คัน มูลค่า 40 กว่าล้านบาท วิธีการซื้อต้องมีการเสนอราคา ใครได้ถูกที่สุดก็ชนะ ทาง อบจ.สงขลาก็ซื้อมีการทำสัญญา และส่งมอบรถบรรทุก ในระหว่างที่มีการฟ้องว่า มีการฮั้วประมูลรถบรรทุก ช่วงนั้นนายนิพนธ์ เข้ามาเป็นนายกฯอบจ.สงขลา พอดี ซึ่งมีการตรวจสอบและพบว่า การซื้อขายน่าสงสัยว่ามีการฮั้วประมูล ทางอบจ.สงขลา ไปแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทที่ถูกกล่าวหาว่าอั้วประมูล ทางพนักงานอัยการฟ้องเป็นคดีอาญา ต่อมามีข่าวว่าจำเลยบางคนหลบหนีไปต่างประเทศ
ส่วนบริษัทที่ประมูลได้ก็ยื่นฟ้องนายกอบจ.สงขลาต่อป.ป.ช.ว่า ไม่จ่ายเงินค่ารถ พร้อมกับไปฟ้องศาลปกครองกลาง แต่ศาลระบุไม่มีหลักฐานว่าฮั้ว จึงสั่งให้อบจ.สงขลาจ่ายเงิน ต่อมาอบจ.สงขลาได้ยื่นฟ้องศาลปกครองสูงสุดพร้อมหลักฐานเพิ่มเติมเรื่องบริษัทคู่เทียบมีการฮั้วประมูลโดยคดีนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด เบื้องต้นก็เท่ากับว่า ป.ป.ช.เชื่อว่ามีการฮั้วประมูลจริง ขณะเดียวกันบริษัทเอกชน ก็ฟ้องป.ป.ช.ว่ามีการกลั่นแกล้ง
“ถ้านายกอบจ.สงขลาสั่งจ่ายเงินค่ารถฯ สัญญาที่เป็นโมฆะ ก็ถือว่ามีความผิด เพราะเป็นโมฆะยกรรม ถือว่าคู่กรณีกลับคืนในฐานะเดิม คือคืนรถกลับไปให้บริษัท แต่นายกอบจ.สงขลาไม่จ่ายเงิน พวกฮั้วประมูลบอกเป็นกลั่นแกล้ง ซึ่งอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนายกอบจ. สงขลา แต่ป.ป.ช.กลับฟ้องคดีนี้เอง
"ผมพร้อมจะสู้คดีกับ ป.ป.ช.และไม่เกรงใจ ผมไม่ให้ความชื่นชม ป.ป.ช. ชุดนาฬิกายืมเพื่อน ผมไม่ได้กล่าวหา หรือแขวะใคร เพราะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมไม่ได้รับคดีแบบจับฉ่าย ที่รับคดีนี้เพราะเห็นว่าคุณนิพนธ์ถูกรังแก "
พร้อมระบุว่า ไม่มีสาเหตุอะไรที่ทำให้โกรธเคืองกับ กรรมการป.ป.ช. ชุดปัจจุบัน แม้ไม่คุ้นเคยนัก แต่ ป.ป.ช.บางคนรู้จักเป็นการส่วนตัว ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็๋นเรืองการเมืองที่ต้องการให้นายนิพนธ์ พ้นจากเก้าอี้ รมช.มหาดไทย หรือไม่ ตนไม่ทราบ
นายวสันต์ กล่าวอีกว่า เอาเรื่องจริงไปสู้กันในศาล ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด ยืนยันว่าเราในฐานะจำเลยก็เตรียมความพร้อมในทางคดี ยืนยันว่าตนและนายนิพนธ์จะไปตามที่ป.ป.ช.นัดในวันที่ 5 ก.ย.นี้แน่นอน"
มั่นใจจะชนะคดีนี้ ไม่มั่นใจคงไม่รับทำ พร้อมขอร้อง แต่อย่าเอาไปเล่นเดิมพันกัน พร้อมให้เหตุผลถึงความมั่นใจว่ามีโอกาสชนะคดีนี้ว่า ไม่เคยมีคดีในลักษณะของนายนิพนธ์มาก่อน เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า คดีเกิดที่สงขลาแต่ ป.ป.ช ฟ้องที่ กทม. อ้างว่าจำเลยมีอิทธิพลในพื้นที่ ซึ่งทำความลำบากให้กับพยายที่จะมาให้การที่กทม.
"ผมจะคัดค้าน ซึ่งก็แล้วแต่ดุลพินิจของศาล ว่าจะรับหรือไม่รับคดีไว้พิจารณา " นายวสันต์กล่าว และเชื่อว่า คดีนี้จะเสร็จเร็ว ไม่ยืดเยื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างแถลงข่าว นายนิพนธ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า วันนี้ตนไม่ขอพูดอะไร เพราะพูดรื่องนี้มากพอสมควรแล้ว