นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ "อุ๊งอิ๊ง" หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวในกิจกรรม "สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ" ที่จังหวัดเชียงใหม่ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ไม่ได้ต้องการเล่นการเมือง แต่มาให้กำลังใจตน ว่า จริงๆ แล้วเป็นที่รู้กันดีว่าหน้าฉากคุณหญิงพจมาน หรือ คุณหญิงอ้อ ก็ไม่ได้เล่นการเมือง ไม่ได้เป็น ส.ส. ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีอยู่แล้ว
แต่หลังฉากเมื่อครั้งที่พรรคของตระกูลชินวัตรได้เป็นรัฐบาล ตั้งแต่ยุค พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน มา พรรคเพื่อไทย คุณหญิงอ้อ เล่นการเมืองมากกว่าใคร เพราะใหญ่กว่า นายกฯ ใหญ่กว่ารัฐมมตรี และบรรดาส.ส.เสียอีก
"การปรากฏตัวของ คุณหญิงพจมาน ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การให้กำลังใจ แต่เป็นการแสดงออกให้เห็นว่า ตระกูลชินวัตร เป็นเจ้าของพรรคจริงๆ บรรดาหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค ที่แต่งตั้งมากันนั้น เป็นได้แค่ลิ่วล้อ หางแถวไม่ได้มีอำนาจ หรือมีอิสระเสรีในการตัดสินอะไรในพรรค
และอีกนัยที่ คุณหญิงพจมาน ออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้คงน่าจะออกมาส่งสัญญาณให้ลูกสมุน เกี่ยวกับเรื่องกระสุนที่เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง เพราะกระแสข่าวมาต่อเนื่อง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย จำนวนหลายสิบคนเตรียมตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพื่อไปลงสมัครรับเลือกตั้งสังกัดพรรคการเมืองอื่น"
นายชนะศักดิ์ ยังกล่าวถึงนางสาวแพทองธาร วิจารณ์โจมตี 3 ป. คือวิกฤตของประเทศชาติ ว่า นับวันนางสาวแพทองธาร ยิ่งแสดงความเป็นตัวตนออกมาชัดเจนว่าเชื้อไม่ได้ทิ้งแถว ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น พ่อเป็นอย่างไรลูกเป็นอย่างนั้น
“ผมอยากถามว่าตอนนี้อะไรคือวิกฤตของประเทศชาติ โควิดก็กลับเข้าสู้ภาวะปกติ น้ำมันก็ลดราคา สภาวะเศรษฐกิจก็ฟื้นตัวดีวันดีคืน ไม่เช่นนั้น นางสาวแพทองธาร คงไม่ใส่เสื้อจัดงานวันเกิดตัวเองราคาตั้งตัวละ 6 หมื่นบาทหรอก”
นายชนะศักดิ์ ชี้ว่า วิกฤตของชาติที่เป็นรูปธรรมที่สุด คือ การทุจริตคอร์รัปชัน ที่เกิดในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่นายทักษิณ คุณพ่ออุ๊งอิ๊ง เป็นนายกฯ และการคอร์รัปชัน รวมทั้งการออกกฎหมายลักหลับ กฎหมายนิรโทรกรรมเพื่อล้างผิดให้ นายทักษิณ ในยุค นางสาวยิ่งลักษณ์ คุณอาของอุ๊งอิ๊ง นี่ต่างหากที่เป็นวิกฤตของประเทศชาติบ้านเมือง ที่นำไปสู่ความขัดแย้งแตกแยกของพี่น้องประชาชนคนไทย จน 3 ป. ต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ แก้ปัญหาประเทศให้ดีขึ้นจนวันนี้