วันที่ 23 ก.ย.2565 - นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ดูแลกทม. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าทีมการศึกษาทันสมัย
น.ส.วทันยา บุนนาค สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และนายชนินทร์ รุ่งแสง ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตบางกอกน้อย ลงพื้นที่พบประประชาชน ที่ชุมชนวัดสุวรรณราม(บ้านบุ) ลานกีฬาชุมชนริมทางรถไฟบางกอกน้อย ทั้งนี้ นายชนินทร์ยังส่งมอบถุงเติมสุขแก่ 400 ครอบครัวด้วย
นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ของเลือดใหม่ประชาธิปัตย์ ว่า เป็นการสะท้อนว่าบุคลากรที่มาร่วมงานกับพรรคคนรุ่นใหม่พร้อมทำงาน รวมไปถึงแสดงให้เห็นว่าทีมกรุงเทพและประชาธิปัตย์ทั้งพรรคก็มีความพร้อม ตอนนี้ต้องถือว่ากำลังจะก้าวเข้าสู่โหมดเลือกตั้งแล้ว
ส่วนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นวันไหนตนคิดว่าหลายฝ่ายคงคาดการณ์ได้ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ก็ให้ความเห็นมาแล้วว่า ถ้ารัฐบาลอยู่ครบเทอมจะไปเลือกตั้งวันที่ 7 พ.ค.66 แต่หากมีการยุบสภาก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ต้องเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน ซึ่งทั้งหมดมีกติกากำหนดไว้ชัดเจนแล้ว อย่างที่ตนเคยพูดว่าการเมืองไทยมีทางออกเสมอ ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า การสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคฯของน.ส.วทันยา ผ่านไป 1 วัน ฟีดแบ็กเป็นอย่างไรบ้าง นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้รับเสียงตอบรับดีมาก ซึ่งพวกเราก็ชื่นชมและชื่นชอบน.ส.วทันยาอยู่แล้ว ตนก็หวังว่าชาวกรุงเทพฯ และคนไทยทั้งประเทศก็ชื่นชอบเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ต่อจากนี้จะมีคนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาในพรรคและจะทยอยเปิดตัวอีก เช่นในวันที่ 24 ก.ย.ตนจะเดินทางไปเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ที่สุราษฎร์ธานี เป็นการ“รวมพลังชาวสุราษฎร์หนุนประชาธิปัตย์ยกทีม” ซึ่งการเลือกตั้งที่ผ่านมาจ.สุราษฎร์ธานี มี 6 เขต ประชาธิปัตย์ได้ทั้งหมด ฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้เพิ่มมาเป็น 7 เขต เราก็จะได้ยกทีมอีกเช่นกัน
ถามว่า เมื่อเสริมทีมกทม.แล้ว ได้ตั้งเป้าส.ส.ไว้อย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ถึงกลับบอกว่าประชาธิปัตย์จะได้ส.ส.กี่คน แต่เรามั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เสียงตอบรับจากชาวกรุงเทพดีขึ้นแน่นอน ดูได้จากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และส.ก.ที่ผ่านมา
ถามอีกว่า ในวันที่ 24 ก.ย. ซึ่งเริ่มนับ 180 วัน ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งมีการกำชับลูกพรรคฯในการหาเสียงอย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นไปตามกฎหมายทั้งหมด ไม่มีใครละเมิดกฎหมายและรัฐธรรมนูญได้ กกต.ก็เป็นผู้กำกับ เพราะฉะนั้น กกต.ว่าอย่างไรก็ต้องว่าตามนั้น
ตอนนี้กำลังรออยู่ว่า สุดท้ายรายละเอียดทั้งหมด กกต.จะว่าอย่างไร เพราะทุกฝ่ายมีคำถามและสิ่งที่อยากเห็นว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ต้องบอกให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม ภายใต้กรอบกฎหมายก็จะทำให้พรรคการเมืองปฏิบัติได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องรอว่าให้ลองทำดูเดี๋ยวบอกเอง ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ทำยาก เพราะทุกพรรคมีปัญหาเหมือนกัน จึงอยากเห็นคำตอบของกกต.ที่เป็นรูปธรรมที่สุดเท่าที่จะทำได้
ด้าน น.ส.วทันยา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เขตบางกอกน้อยหลังสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้เพียง 1 วัน ก็รู้สึกตื่นเต้น เพราะเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกกับพรรค และได้รับกระแสตอบรับดี เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังมีชาวบ้านเป็นฐานเสียงที่พร้อมสนับสนุนเสมอ