ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังกลับมาปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ได้อีกครั้ง ภายหลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปต่อในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ครบ 8 ปี โดยเริ่มนับวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ตั้งแต่ ปี 2560
โดยในช่วงเช้าวันนี้ (3 ตุลาคม 2565) พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อเริ่มภารกิจแรก ในการเป็นประธานการประชุมการบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัยและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
ทันทีที่เดินทางมาถึงในเวลาประมาณ 9.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้เข้าไปสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารระดับสูง ให้การต้อนรับ
ต่อมาเมื่อเวลา 12.29 น. ภายหลังประชุมที่กระทรวงมหาดไทยเสร็จ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้เดินทางเข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาล ด้วยรถเบนซ์ส่วนตัว ทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร ถึงบริเวณด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมกับสายฝนที่ค่อย ๆ ตกลงมา ก่อนที่รถจะจอดบริเวณทางขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า โดยมีข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รอต้อนรับ
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินขึ้นไปยังชั้นบนสุดของตึกทันที เพื่อไปสักการะ ท้าวมหาพรหม ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งอยู่บนด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมกับเจ้าหน้าที่
พร้อมกันนี้ เมื่อสักการะท้าวมหาพรหมเสร็จ พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้เจ้าหน้าที่บนตึกไทยคู่ฟ้านำพวงมาลัยดอกไม้ มาไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตายาย บริเวณด้านข้างตึกไทยคู่ฟ้าด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศโดยรอบทำเนียบรัฐบาล วันนี้ ยังมีกลุ่มผู้ชุมชุมปักหลักชุมนุมใกล้ ๆ กับทำเนียบรัฐบาลหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณถนนพิษณุโลก เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ รวมทั้งบริเวณถนนราชดำเนินนอก ก่อนถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรบางส่วนรอบทำเนียบ และในช่วงที่นายกฯ เดินทางมาถึง ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมเปิดเพลงเสียงดังจนถึงบริเวณด้านหน้าของตึกไทยคู่ฟ้าด้วย
ส่วนบรรยากาศในทำเนียบรัฐบาล มีรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการจัดเตรียมห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ จากเดิมที่ประชุมบริเวณตึกสันติไมตรี มาประชุมที่ตึกบัญชาการ 1 แทน เหมือนกับในช่วงก่อนเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19