วันนี้(1 พ.ย.65) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรคและผู้อำนวยการพรรค นายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าพรรคและโฆษก นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค ร่วมกิจกรรม “คิด ถึง - บ้าน ณ เยาวราชบ้านเกิด...จุดเริ่มต้นชีวิต ของ ดร. สมคิด”
โดยได้พบปะประชาชน ร้านค้า รวมถึงผู้ประกอบการในพื้นที่เยาวราชศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ และประเทศไทย หลังจากเข้าสักการะเจ้าแม่กวนอิม พร้อมพูดคุยกับประธานและคณะกรรมการมูลนิธิเทียนฟ้า ถนนเยาวราช นายสมคิด พร้อมคณะได้เดินพบปะผู้ประกอบการเพื่อรับฟังปัญหาปากท้อง การค้าขายย่านเยาวราช พร้อมพูดคุยผู้ประกอบการ ที่โรงแรมไชน่าทาวน์
นายสมคิด กล่าวว่า เยาวราชเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต ได้อยู่อาศัย ได้วิ่งเล่น ได้เรียนและเติบโตที่นี่ ทำให้ได้รับโอกาสในชีวิตที่ดี จึงอยากให้ลูกหลานคนเยาวราช พ่อค้าแม่ขาย ได้รับโอกาสที่ดีในชีวิตแบบเดิม และจะผลักดันเยาวราชให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่เติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป
จากนั้น นายสมคิด ได้เดินทางไปยังบ้านเกิน ถ.เยาวพานิช พร้อมเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาส วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
ภายหลังการเดินพบปะประชาชนเสร็จสิ้น นายสมคิด ระบุว่า วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาในพื้นที่บ้านเกิดอีกครั้ง ซึ่งภาพรวมนั้นเยาวราชก็ยังคงเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ยังคงคึกคักอยู่ เปลี่ยนใหม่ให้สอดล็อคกับแนวคิดที่ต้องส่งเสริมการท่องเที่ยวมากกว่าเดิม
“และนอกจากฝากคนพื้นที่เรื่องว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แล้ว สำหรับปัญหาที่รับฟังมานั้นก็คือ เรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องของผู้ประกอบการที่มีปัญหาเรื่องของการขาดสภาพคล่องทางการเงิน แล้วประสบปัญหาเรื่องของการกู้เงินที่ไม่สะดวกเท่าที่ควร รวมถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงหลังโควิด-19”
เมื่อถามว่าในอนาคต พรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมจะร่วมงานทางการเมืองกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทยยืนยันในจุดยืนคือ ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อใคร แต่เป็นความหวังของชาวบ้านและเป็นทางเลือกใหม่ ไม่มีความคิดเรื่องจะไม่ทำงานกับใคร เพราะมองว่าทุกคนล้วนมีความตั้งใจทำงาน อยากให้สังคมรวมพลังกันฟื้นฟูและสร้างอนาคตใหม่ให้กับประเทศ
“ดังนั้น จึงขอให้ทุกพรรคคัดเลือกคนดีๆ เข้ามาและร่วมมือกัน น่าจะพอแล้วกับการทะเลาะเบาะแว้ง การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่มีประโยชน์ ถ้าคุณเห็นชาวบ้านที่กำลังลำบาก ก็จะรู้เลยว่าเราเสียเวลาไปมากกับการทะเลาะเบาะแว้งกัน ดังนั้นทุกพรรคสามารถเป็นเพื่อนกันได้ คุยกันได้” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวด้วยว่า ตอนนี้อายุ 70 ปีแล้ว ไม่ได้หวังจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่หวังจะสร้างพรรคการเมืองดีๆ สักพรรคหนึ่ง และพรรคนี้จะไม่มีการซื้อเสียงเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าแค่คิดจะซื้อเสียง ก็ถือว่ากลัดกระดุมเม็ดแรกผิดแล้ว ใครฝ่าฝืนหลักการนี้อยู่ร่วมกันกับพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ได้