วันที่ 12 พ.ย 2565 พรรคชาติพัฒนากล้า นำโดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ประธานที่ปรึกษาพรรค พันเอกวินัย สมพงษ์ ที่ปรึกษาพรรค นายวรวุฒิ อุ่นใจ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค
ร่วมพิธีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ใน 2 เขต คือ นางสาวอรทัย เกิดทรัพย์ หรือ อ้อ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เขต 2 และ นายเทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 3 จ.ภูเก็ต
นายสุวัจน์ กล่าวว่า การเลือกเดินทางมาจังหวัดภูเก็ต เพราะเศรษฐกิจหลักของประเทศคือ การท่องเที่ยว และภูเก็ต คือจังหวัดเป้าหมายที่จะเป็นยุทธศาสตร์ในการกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศในเรื่องของการท่องเที่ยว
ทั้งเพื่อกอบกู้เศรษฐกิจ จากวิกฤตโควิด และภาวะสงคราม ทำให้ประชนเกิดปัญหาหนี้สิน และว่างงานเป็นจำนวนมาก ตนในฐานะที่เคยเป็นรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลการท่องเที่ยว เคยทำให้ภูเก็ตมีรายได้ปีละ 1 แสนล้านบาทเมื่อ 20 ปี ที่แล้ว
อยากบอกชาวภูเก็ตว่า ไม่ต้องห่วงวิกฤตที่เกิดขึ้น เราจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาส นักท่องเที่ยว 12 ล้านคนต้องกลับมา ภูเก็ตจะพ้นวิกฤต กลับไปสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
นายกรณ์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวผูกพันกับ จ.ภูเก็ต มานาน เพราะ สส.หญิง คนแรกของภูเก็ต คุณหญิงแร่ม พรหโมบล ก็คือ คุณป้าของตน และในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ตนก็เลือกภูเก็ต เป็นสถานที่ประชุม รมว.คลังอาเซียน
ทุกคนมีความสุขกับการได้มาที่นี่ อีกประการคือ ภูเก็ตเป็นเมือง Authentic มีประวัติศาสตร์ที่ยังมีชีวิต เป็นแหล่งวัฒนธรรม อร่อย และยังมีเทศกาล ที่สืบต่อกันมาช้านาน หลายชั่วอายุคน แบบหาที่อื่นไม่ได้เช่น กินเจ ตนจึงมั่นใจภูเก็ตพัฒนาได้อีกมาก
“จากการพูดคุยกับชาวบ้านพบว่า 3 อย่าง ที่ชาวภูเก็ตต้องการคือ เลือกผู้ว่าฯ เอง เลือกใช้งบประมาณเอง เพื่อให้การใช้งบบตรงเป้า ตอบโจทย์คนภูเก็ต และ 3. เลือกอนาคตเศรษฐกิจเองให้เป็น World Class City นี่คือที่มาของคำว่า ภูเก็ต DIY ” หัวหน้าชาติพัฒนากล้า กล่าว
นางสาวอรทัย กล่าว การเมืองเป็นเรื่องดีเอ็นเอ พ่อและน้องชายของตนก็เป็นนักการเมืองท้องถิ่น เป็นนักพัฒนามาโดยตลอด การที่ตนเลือกพรรคชาติพัฒนากล้า เพราะผู้บริหารเปิดโอกาสและรับฟังปัญหาของชุมชนจากปากของผู้สมัคร
เราจึงอยากจะกล้าพัฒนาชาติไปกับชาติพัฒนากล้า และเชื่อว่าจะทำให้ภูเก็ต เจริญขึ้นอย่างแน่นอน จากการลงพื้นที่พบปะชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง จนได้ฉายา “อ้อทุ่มเท” มันจึงเป็นเหมือนคำสัญญาว่าจะทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองสวรรค์ของนักท่องเที่ยวและของประชาชนในพื้นที่”
นายเทมส์ กล่าวว่า แม้ตนจะเพิ่งเข้าสู่การเมือง แต่ก็มีความตั้งใจมาทำงานจริง เมื่อประกาศตัวว่าจะลง ส.ส.ก็ลุยเลย และทำงานมาตลอด เริ่มจากวันที่ไม่มีใครรู้จัก จนพิสูจน์ได้ว่าเราทำได้ และก็ทำงานมาอย่างต่อเนื่อง อยู่เคียงข้างกับประชาชน ในช่วงที่เกิดวิกฤต ภูเก็ตเป็นจังหวัดพิเศษ จะบริหารงานแบบตัดเสื้อโหลได้ ภูเก็ตต้องเป็นเมืองที่จัดการตัวเอง
จากนั้นนายสุวัจน์ และนายกรณ์ ได้มอบเสื้อแจ็คเก็ตผู้สมัคร ให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 2 คน ท่ามกลางประชาชนที่เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ว่าที่ผู้สมัครทั้งสองคน เป็นความหวังของชาวภูเก็ต เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ และทำงานจริงมาตลอดกว่า 2 ปี