“ผมยืนยันไม่มีความระส่ำระสายเด็ดขาด หากสถานการณ์เลือดไหลออกจากพรรคยังไม่ดีขึ้น ก็จะเปลี่ยนสถานภาพของตัวเองจากหมาเฝ้าบ้าน เป็นหมาล่าเนื้อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
ท่ามกลางส.ส.และสมาชิกพรรคบางคน พากันลาออกจากพรรคเก่าแก่อย่าง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ทำให้พรรคถูกมองว่า “เลือดไหลออก” ส่งผลกระทบกระเทือนต่อความเชื่อมั่นของพรรค ที่กำลังจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหญ่ในช่วงต้นปี 2566
แต่สำหรับ แม่บ้านพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม อย่าง เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มองว่า แม้จะมีคนไหลออกบ้าง แต่ “พรรคประชาธิปัตย์” ก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป และพร้อมจะต่อสู้อย่างเต็มที่ในสนามเลือกตั้ง
“ส่วนตัวไม่อยากจะให้ใช้คำว่า เลือดไหลออก จากพรรคประชาธิปัตย์ เพราะคนที่ออกไปถือว่าตัดสินใจมาก่อนแล้ว หลังจากชุดนี้ที่มีสมาชิกลาออกไปแล้ว ก็จะไม่มีอีก สมาชิกที่เหลือจะเดินหน้าไปด้วยกัน” เฉลิมชัย ศรีอ่อน ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับทีมข่าวเครือเนชั่น
นายเฉลิมชัย ยอมรับว่า การลาออกของสมาชิกพรรคมีผลกระทบบ้าง แต่ไม่ได้หมายความว่า จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ซึ่งคนเข้าออกจากพรรคในตอนนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะจะมีการเลือกตั้งใหญ่ พรรคให้สิทธิสมาชิกที่ลาออกไปในการตัดสินใจ ส่วนสมาชิกที่ยังอยู่พร้อมจะนำพรรคประชาธิปัตย์
"ผมยืนยันไม่มีความระส่ำระสายเด็ดขาด หากสถานการณ์เลือดไหลออกจากพรรคยังไม่ดีขึ้น ก็จะเปลี่ยนสถานภาพของตัวเองจาก หมาเฝ้าบ้าน เป็น หมาล่าเนื้อ ออกพบสื่อมวลชน เพื่อทำความเข้าใจให้มากขึ้น วันนี้คิดว่าเลือดหยุดไหลแล้ว ที่ออกไปแล้ว มีการตัดสินใจไว้ก่อน เฉพาะที่เป็นข่าว จากนี้คงไม่มี ดังนั้น เลิกพูดเลือดไหลไม่หยุด พ้นจากนี้ไม่มีแล้ว"
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากได้ส.ส.ต่ำกว่า 52 ที่นั่ง ก็ถือเป็นความรับผิดชอบของตนเอง ในฐานะเลขาธิการพรรค และจะรักษาคำพูดที่เคยกล่าวไว้ว่าจะ “เลิกเล่นการเมือง”
เฉลิมชัย ยืนยันว่า เมื่อมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบก็จะทำให้ดีที่สุด เพื่อนำพาพรรคประชาธิปัตย์กลับมามีที่นั่งในสภาให้ได้ และยังมั่นใจตั้งแต่วันแรกที่พูด ไม่ได้พูดด้วยอารมณ์ บางอย่างอาจจะอยู่เหนือความคาดการณ์ แต่ก็ต้องใช้สติ
"ผมมั่นใจว่า ยังได้ ส.ส.มากกว่า 52 ที่นั่ง ตามยุทธศาสตร์ 52 บวก เชื่อมั่นในตัวผู้สมัครของพรรค เพราะลงพื้นที่มาตลอดกว่า 3 ปีครึ่ง สามารถต่อสู้กับทุกคนในสนามเลือกตั้งได้ จากผลงานที่ทำให้กับประชาชนและเกษตรกร ด้วยการทำงาน ความซื่อสัตย์ ที่พร้อมให้ตรวจสอบ" นายเฉลิมชัย ระบุ
เชื่อ “2 บิ๊ก” ไม่ทิ้งปชป.
ส่วนกรณีที่ปรากฏภาพ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. และ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ไปร่วมรับประทานอาหารกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ท่ามกลางกระแสข่าวว่าจะมีการย้ายพรรคนั้น ส่วนตัวมองเป็นเรื่องปกติของนักการเมือง โดยเฉพาะในส่วนของนายอภิสิทธิ์ เคยเป็นอดีตหัวหน้าพรรค เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี
“แม้แต่ผมก็ยังไปรับประทานอาหารกับ นายอนุทิน หรือ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ หรือ แม้แต่พรรคการเมืองอื่น ที่เคยไปร่วมรับประทานอาหารร่วมกันอยู่ตลอด เป็นเรื่องปกติของการเมืองไทย สำหรับผมมองว่าไม่มีนัยอะไร" นายเฉลิมชัย กล่าว
ส่วนที่มีการโยงไปถึงกระแสข่าวว่า นายสาธิต จะย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย แม่บ้านพรรค ปชป. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เรื่องนี้ นายสาธิต ได้ชี้แจงไปอย่างชัดเจนแล้ว ถือเป็นผู้ใหญ่คงไม่อยากให้อะไรมันคลุมเครือ
เมื่อถามว่ากระแสข่าวที่ออกมาในช่วงนี้ ซึ่งใกล้เลือกตั้งหวังผลอะไรหรือไม่ เฉลิมชัย ตอบว่า แน่นอนว่าทุกฝ่ายถ้าพูดเรื่องการเมือง ก็หวังผลเรื่องการเลือกตั้งทั้งหมด มันไม่มีใครหลีกหนีพ้น เพียงแต่ว่า อยากให้มันอยู่ในกรอบ อยู่ในความถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการหาเสียง หรืออะไรก็แล้วแต่ ควรอยู่บนพื้นฐานความถูกต้องและความเป็นจริงก็จะทำให้การเมืองเดินได้
ส่วนเรื่องความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลที่มีการดึงตัวส.ส.กันไปมา เฉลิมชัย ยืนยันว่า ในส่วนของการร่วมรัฐบาลเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรการแข่งขัน ถือเป็นเรื่องธรรมชาติของการเมือง การเข้าสู่อำนาจบนพื้นฐานการเลือกตั้ง มองว่าเป็นเรื่องปกติ
“ถ้าไม่มีดีก็ไม่ต้องอาสาตัวมา แต่คิดว่ามีดี พอสู้ได้ ก็อย่าไปกังวลในเรื่องกติกา รวมถึงเรื่องอื่นๆ” เลขาธิการพรรค ปชป. ระบุ