นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม และนายนที ศิริธรรมวัฒน์ ผู้เสนอตัวสมัคร ส.ส.กทม. พรรคชาติพัฒนากล้า เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายการใช้โครงการของรัฐ หาเสียงเลือกตั้ง
โดยมีเบาะแสในพื้นที่ว่า พบการเก็บบัตรประชาชน ถ่ายเอกสาร งบต่อหัวละ 200 บาท อ้างโครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม (อาชีพดีพร้อม) ปีงบประมาณ 2565 โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งในงานพบว่ามีว่าที่ผู้สมัครและ ส.ส.ปรากฏตัวแนะนำตัวในงานด้วย
การหาเสียงรูปแบบนี้ ปรากฏขึ้นต่อเนื่องหลายเขตพื้นที่ในกรุงเทพฯ ทั้งเขตบางเขน เขตจตุจักร เขตดุสิต และกำลังจะเกิดขึ้นอีกหลายเขตพื้นที่
"ในเขตพญาไทก็มีรายงานว่า มีการเรียกประชาชนในชุมชนรวม 200 คน มาอบรมการสร้างอาชีพ มีการใช้งบประมาณค่ารถ ซึ่งปกติส่วนราชการสามารถประสานผ่านกลไกของรัฐไปถึงประชาชน ขอให้ประชาชนเข้ามาร่วมโครงการได้ แต่รอบนี้กลับมีการประสานผ่านตัวแทนของพรรคการเมืองในพื้นที่ และเป็นบุคคลที่ไม่ได้มีตำแหน่งในทางราชการด้วย" นายนที กล่าว
นายแสนยากรณ์ กล่าวว่า เมื่อมีการใช้กฎเหล็กที่ผู้สมัครและพรรคการเมือง ต้องทำตามในกรอบ 180 วัน ก่อนอายุสภาผู้แทนราษฎรจะสิ้นสุดลง ก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย อย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ปล่อยให้มีการหาเสียง ปรากฏตัว แนะนำตัว ในโครงการสัมมนาของรัฐแบบนี้
นอกจากจะเข้าข่ายการใช้ทรัพยากรโครงการของรัฐหาเสียงเลือกตั้งแล้ว ตัวเจ้าหน้าที่รัฐก็อาจเข้าข่ายวางตัวไม่เป็นกลาง ขัดต่อมาตรา 78 ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ถือว่ามีความผิดด้วยเช่นกัน
จึงอยากให้เข้มงวด เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมกับทุกฝ่าย