นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ตอบคำถามเรื่องทิศทางทางการเมือง หลังเสร็จสินการประชุมเอเปกว่า “นายกฯยังไม่มีการส่งสัญญาณ เรื่องทิศทางทางการเมือง เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาติดเรื่องการประชุมเอเปก และวันนี้จะพบกับนายกรัฐมนตรีวันแรก การเมืองไม่มีอะไร ก็ดำเนินกันไปทุกวัน เดี๋ยวก็ถึงเดือน ซึ่งเดือนมี.ค.นี้ก็จะหมดสมัยประชุมสภาฯ ไม่เกิน 45 วัน และไม่เกิน 60 วันก็จะต้องมีการเลือกตั้งซึ่งก็จะเป็นไปตามนั้น”
เมื่อถามว่าสัญญาณในขณะนี้นายกรัฐมนตรีจะอยู่จนครบวาระหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนว่าตอนนี้อะไรก็ได้ หากจะยุบสภาฯก็เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองมีความพร้อม และตอนนี้ใกล้เดือนธ.ค.แล้วหากพรรคการเมืองไหนไม่พร้อมก็ไม่ต้องแข่งแล้วไม่ทันแล้ว
พร้อม ยอมรับว่า มีส.ส. จากพรรคการเมืองอื่น สนใจเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยจริง โดย มีการพูดคุย และรอให้ทุกอย่างถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมาย จึงจะมีการเปิดตัวผู้สมัครอย่างเป็นทางการ ในส่วนของ พื้นที่ กทม. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) จะมาร่วมทีมกทม.กับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ขออุบไว้ก่อน หากนักการเมืองคนไหนเห็นว่าแนวทางของพรรคทำให้ท่านได้รับความไว้วางใจจากประชาชนจากประชาชนก็ให้มาพูดคุยกัน แต่พรรคมีความพร้อม ในทุกพื้นที่
ส่วนกรณี ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย กฎหมายลูก 2 ฉบับในวันที่ 30 พ.ย.นี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยในเรื่องการเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครสร้างความนิยมให้กับตนเอง รวมถึงเน้นการนำนโยบายของพรรคให้กับประชาชนได้รับทราบให้มากที่สุด และใช้ความเชื่อมั่นที่ประชาชนเริ่มติดปากว่า พรรคภูมิใจไทยพูดแล้วทำ เมื่อพรรคมีความนิยมจะหาร 100 หรือหาร 500 ก็ไม่มีปัญหา
เมื่อถามถึงตำแหน่งที่สนใจหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า ยังคงเป็นรมว.สาธารณสุขหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขก็สนุกดี ท้าทาย สามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้เยอะ ให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีและปลอดภัย
เมื่อถามย้ำว่ากระทรวงมหาดไทยน่าสนใจหรือไม่นายอนุทิน กล่าวว่า เอาเลือกตั้งให้รอดก่อน ไม่รู้จะมากี่คน ทำไมไม่ถามว่าเป็นผู้นำฝ่ายค้านน่าสนใจหรือไม่
เมื่อถามย้อนกลับว่าอยากเป็นหรือ นายอนุทินกล่าวว่า เป็นได้หมดและเป็นได้ดีด้วย
ในส่วนกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรีจะไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) จะถือเป็นการแย่งคะแนนกันเองในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า แบบนี้ตัวใครตัวมัน เราไม่ก้าวก่าย ระดับนายกรัฐมนตรีเราจะไปวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของท่านได้อย่างไร
เราต้องเคารพการตัดสินใจของท่าน พร้อมระบุถึงกระแส แยกกันตีว่า เลิกตีกันได้แล้ว ไม่เอาแล้ว รักกันดีกว่า พรรคภูมิใจไทยเวลาให้สัมภาษณ์และพูดอภิปรายไม่มีไม่มีแดกดันใช้คำพูดด้อยค่าใคร แต่พูดถึงประโยชน์ของประชาชนและบ้านเมืองและรับฟังและรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้อื่น หากมีประโยชน์ก็นำมาช้าย เราต้องลดความขัดแย้งและความเกลียดชังบ้านเมืองจะได้ไปได้
พร้อมตอบจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย กรณี หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม แยกทางกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ว่า “พรรคภูมิใจไทยก็บอกแล้วว่าเลือกข้างนานแล้ว นั่นคือเลือกข้างประชาชน”