วิษณุ แจง“บิ๊กตู่” สมัครสมาชิกได้ทุกพรรค

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์  กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม  เป็นนายกฯที่มาจากพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) สามารถสมัครพรรคการเมืองอื่นได้  เพราะจะไม่ดูคุณสมบัติ ในระหว่างที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องเลือกนายกฯ 

พร้อมยกตัวอย่างกรณี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์  และ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่เคยมีชื่อเป็นแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย แต่ตอนนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ มีชื่อเป็นหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย

แต่ถ้าจากนี้จำเป็นต้องหานายกฯคนใหม่ คนที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะต้องทำตัวเองให้ถูกต้องมีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วน 
 

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ถ้านายกฯไปสมัครสมาชิกพรรคการเมืองในขณะนี้ ก็ไม่มีปัญหาความได้เปรียบเสียเปรียบ ในการหาเสียงเลือกตั้งแต่อย่างใด  ทุกครั้งช่วงปลายสมัยรัฐบาล และกำลังจะมีการเลือกตั้ง มักจะเกิดแบบนี้เสมอ

เช่น รัฐมนตรีคนหนึ่ง เคยอยู่พรรคการเมืองหนึ่ง แต่ตั้งใจว่าจะย้ายไปอยู่พรรคอื่น ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ก็เริ่มไปหาเสียงให้พรรคการเมืองใหม่ที่จะไปสังกัด  ทำให้นายกฯ ตัดสินใจปรับคณะรัฐมนตรี

โดยยกตัวอย่างสมัยรัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ ปรับครม. เพราะรู้ว่ารัฐมนตรีบางคน จะไม่อยู่และจะเป็นปรปักษ์ในการหาเสียง จึงปรับออกและหาคนใหม่มาแทน

แต่ยังไม่ทันได้โปรดเกล้าฯ ลงมา นายบรรหาร ได้นำเสนอพระราชกฤษฎีกายุบสภา ขึ้นไปอีกฉบับ และโปรดเกล้าฯ ลงมาก่อน ทำให้ต้องจัดเลือกตั้งภายใน 90 วัน

จากนั้นได้โปรดเกล้าฯ รัฐมนตรี ทำให้รัฐมนตรีเหล่านั้น ได้ทำงานในช่วง 90 วัน ก็ถือว่าคุ้ม

เมื่อถามว่า หากนายกฯ ไปสมัครสมาชิกพรรคการเมืองช่วงท้ายรัฐบาล จะเกิดคำถามเรื่องมารยาททางการเมืองหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตั้งคำถามเรื่องมารยาทได้ แต่ไม่ส่งผลต่อการบริหารราชการแผ่นดิน

ก่อนหน้านี้นายกฯ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด แต่ถ้าตอนนี้สมัครสมาชิกพรรคการเมือง ก็ไม่มีผล เพราะอายุรัฐบาลเหลือเพียงไม่กี่เดือน หรือไม่กี่วันด้วยซ้ำ ไม่น่ากระทบอะไร

แต่ถ้ารัฐบาลอยู่นานอีกหลายปี จะทำให้มีข้อจำกัด แต่อย่าไปคิดอะไรแทนเขาไม่มีอะไรน่ากลัว 

ถามว่ารัฐบาลจะมีอำนาจบริหารประเทศเพื่อผลักดันงานต่างๆ ไปจนถึงเดือนมี.ค.2566 หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แล้วแต่เขา เป็นเรื่องประเด็นทางการเมือง ไม่ใช่เรื่องที่ว่าควรหรือไม่ควร