"ประวิตร" เคาะต่อ พรก.ฉุกเฉิน จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีก 3 เดือน

25 พ.ย. 2565 | 04:04 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ย. 2565 | 11:18 น.

พล.อ.ประวิตร ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน เคาะต่อ พรก.ฉุกเฉินชายแดนภาคใต้ อีก 3 เดือน ตั้งแต่ 20 ธ.ค.65 และสิ้นสุดลงใน 19 มี.ค.66

วันนี้ เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 4 พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ

 

โดยที่ประชุมรับทราบสถานการณ์และการบังคับใช้ พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินและข้อมูลตัวชี้วัดในพื้นที่ที่ผ่านมา 

 

 

ต่อจากนั้น ได้ร่วมพิจารณาถึงเหตุการณ์และสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ และเห็นชอบ การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ 

 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน

สำหรับการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ ดังนี้

  • จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.ศรีสาคร อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส อ.ยะหริ่ง อ.ไม้แก่น อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี และอ.เบตง อ.กาบัง จ.ยะลา 
  • ขยายเวลาออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 20 ธ.ค.65 และสิ้นสุดลงใน 19 มี.ค.66 

 

โดยครั้งนี้ ไม่มีการปรับลดพื้นที่ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในป้องกัน ระงับ ยับยั้งสถานการณ์ในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที

 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน

พล.อ.ประวิตร ยังได้ย้ำ ขอให้ กอ.รมน. พิจารณาใช้ พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพ ระมัดระวังการเมิดสิทธิมนุษยชนในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และให้มีการทบทวนการปรับลดพื้นที่ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินอย่างรอบด้าน สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเร่งขับเคลื่อนงานยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนไปพร้อมกัน 

 

พร้อมทั้งขอให้เร่งสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเฉพาะต้องมีการเฝ้าระวังและเปิดเผยบุคคลเป้าหมายให้สาธารณะชนทราบ รวมทั้งมีมาตรการระวังป้องกัน การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นมากขึ้น และขอเป็นกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคนและขอให้ไม่ประมาทในการปฏิบัติงาน