มีรายงานว่า ในวันที่ 6 ธันวาคม เวลา 15.30 น. ณ ที่ทำการพรรค พลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. จะแถลงเปิดตัว นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ เบื้องต้นจะมาเสริมทีมเศรษฐกิจช่วยขับเคลื่อนงานในเรื่องดังกล่าวให้กับพรรค
หลังจากนั้นนายมิ่งขวัญจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงเหตุผลที่ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรค พปชร.ครั้งนี้ด้วย
ก่อนหน้านี้นายมิ่งขวัญเคยมีข่าวจะไปร่วมงานพรรคเศรษฐกิจไทย กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา แต่สุดท้ายกลับแถลงข่าวประกาศตัวในนามพรรคโอกาสไทย และเปิดรับผู้มีอุดมการณ์เดียวกันมาร่วมงาน แต่ไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร
นอกจากนี้ นายมิ่งขวัญ เคยถูกจับตา ว่าจะพา ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ ไปจับมือกับพลังประชารัฐ จนมีเสียงวิจารณ์ในโซเชียลมีเดียกว้างขวาง ทำให้เจ้าตัวต้องออกมาปฏิเสธ พร้อมกับยืนยันว่า เป็นคนรักษาคำพูดและจุดยืนทางการเมือง จะอยู่ฝั่งประชาธิปไตย ไม่เห็นด้วยกับการสืบทอดอำนาจ
มิ่งขวัญ มีบทบาทในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลายครั้ง โดยเน้นโจมตีการบริหารงานด้านเศรษฐกิจ เช่น ในศึกซักฟอกเมื่อปี 64 ถึงขั้นกราบวิงวอนกลางสภาให้นายกฯ ลาออก เพื่อให้คนอื่นเข้ามาทำหน้าที่แทน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2565 พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทยได้จัดประชุมใหญ่วิสามัญพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ครั้งที่ 1/2565 ที่ จ.สุพรรณบุรี โดยมีมติเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น พรรคโอกาสไทย และตั้งนายมิ่งขวัญ เป็นหัวหน้าพรรคแทน นายสุชิน เพียรทอง
นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรครักษ์ผืนป่าฯ ระบุว่า การเปลี่ยนชื่อและหัวหน้าพรรคเพื่อเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า มีนายมิ่งขวัญเป็นผู้นำในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป
หลังจากเปิดตัวพรรคโอกาสไทย นายมิ่งขวัญได้เงียบหายไป ก่อนมีรายงานข่าวว่าช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายมิ่งขวัญได้ลาออกจากหัวหน้าพรรคโอกาสไทย เพื่อมาร่วมงานกับพรรค พปชร.
ล่าสุดนายดำรงค์ ยอมรับว่านายมิ่งขวัญ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรคแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุที่นายมิ่งขวัญ ลาออก เนื่องจากหลักศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้กฎหมายเลือกตั้งส.ส.ผ่าน ไม่ขัดแย้งรัฐธรรมนูญและใช้กติกาหาร 100 ปาร์ตี้ลิสต์ ทำให้พรรคเล็กหรือพรรคตั้งใหม่ ไปต่อลำบาก โดยเฉพาะถ้าจะหวังส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ต้องได้ไม่ต่ำกว่า 370,000 คะแนนต่อหนึ่งเก้าอี้ จึงทำให้หลายพรรคต้องตัดสินใจทางการเมือง
ขณะที่นายดำรงค์ อยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่าจะทำพรรคการเมืองต่อไปหรือไม่ หรือจะย้ายไปอยู่พรรคอื่น เพราะต้องยอมรับว่ากติกาหาร 100 ทำให้พรรคเล็กๆอยู่ลำบาก แต่ยืนยันว่าจะไม่เข้าไปอยู่พรรคพลังประชารัฐด้วยแน่นอน