วันนี้(9 ธ.ค.65) นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี กล่าวในงาน พรรคประชาธิปัตย์ ฟัง-คิด-ทำ “ถึงเวลาหยุดคนโกง หยุดงบประมาณรั่วไหล” เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ถึงปัญหาการจ่ายเงินใต้โต๊ะ ซึ่งได้เล่าถึงเรื่องการประมูลโครงการภาครัฐ ว่า
การประมูลโครงการของรัฐ ภายใต้ พ.ร.บ.ร่วมทุน ซึ่งที่ผ่านมา บีทีเอส ได้ร่วมการประมูล และชนะการประมูลอย่างโปร่งใสมาโดยตลอด แต่ที่ผ่านมา เมื่อ ไม่นานมานี้ มี อยู่หนึ่งโครงการ คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม บีทีเอส ได้เข้าไปร่วมประมูล แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือ โครงการนี้ได้เปิดประมูลเมื่อเดือน พ.ค. 2563 โดยมีการขายซองให้ผู้ประมูลแล้ว 10 ราย รวมถึง บริษัทบีทีเอส
แต่ระหว่างที่ยังไม่ได้ยื่นซอง ก็มีการเปลี่ยนข้อกำหนดหลักเกณทีโออาร์ ซึ่งปกติไม่เคยเจอเรื่องลักษณะนี้ มองว่าเป็นเรื่องแปลก และอาจจะไม่โปร่งใส บีทีเอส จึงยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ก่อนศาลจะมีคำสั่งคุ้มครอง ซึ่งหมายความว่าให้กลับไปใช้เงื่อนไขเดิม
แต่เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2563 ปรากฏว่า มีบริษัทยื่นซองประมูล 2 บริษัท รวม บีทีเอส จนวันที่ 3 ก.พ. 2564 รฟม.กลับประกาศยกเลิกการประมูลไป ทั้งที่ยังไม่ได้เปิดซอง จึงดำเนินการฟ้องศาลปกครองอีกครั้ง ในขณะที่ รฟม.ก็เดินหน้าต่อ นอกจากนี้ สิ่งที่แปลกไปกว่านั้น ทีโออาร์ใหม่ บีทีเอสไม่สามารถเข้าร่วมประมูลได้ ทั้งที่เป็นรายใหญ่ แต่อีกบริษัทชนะไป
ด้าน นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า 2-3 ปีนี้ การคอร์รัปชันรุนแรงมาก ซึ่งตนประมูลงานด้านโครงสร้างพื้นฐานมากว่า 30 ปี หลายโครงการ ทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีชมพู และทางด่วน สามารถชนะได้แบบโปร่งใส
“วันนี้เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชัน ขอฝากคนที่คอร์รัปชันให้นึกถึงประเทศบ้าง ว่ากำลังทำลายประเทศชาติเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เพราะประชาชนอยู่ไม่ได้ คนที่คอร์รัปชั่นเองก็จะอยู่ไม่ได้ เมื่อประเทศชาติขาดความมั่นคง”
นายคีรี กล่าวด้วยว่า ตนอยากให้ผู้นำประเทศคิดว่า ถ้าจะให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่านโดยวิธีการนี้ ขออย่าทำ เพราะหากปล่อยผ่านได้ รัฐบาลต้องตอบประชาชนให้ได้ หาก ครม.ชุดนี้ให้ผ่าน ท่านเป็นบาปต่อประเทศชาติแน่นอน เพราะตอนประมูล มี 2 บริษัท แต่ด้วยเหตุผลอะไร จึงมีการอ้าง หรือ ใช้วิธีใด จึงมีการประกาศคนชนะ ที่รัฐบาลต้องจ่ายอีก เป็นเงินกว่า 7 หมื่นล้านบาท
“สิ่งที่ผมอยากเห็นวันนี้ คือ ความถูกต้อง ซึ่งยอมรับว่า ผมเคยแพ้การประมูล และเคยชนะการประมูล แต่ที่ผ่านมาสามารถตรวจสอบได้ทุกโครงการ และสิ่งที่ บีทีเอส เคยชนะโครงการทุกโครงการ ได้รับความเชื่อมั่นและไม่เคยทำลายประเทศชาติ คงเสียดายถ้าวันนี้โครงการมูลค่าเกินแสนล้าน จะผ่านไปแบบนี้ เพราะถือว่ารุนแรงที่สุดในประเทศไทย และผมก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ยอมง่ายๆ หากเรื่องนั้นไม่ถูกต้อง" นายคีรี ประกาศ