นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตส.สพรรครักประเทศ ไทยโพสต์ เฟซบุ๊ก ระบุว่า พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ประธานคณะกรรมการ ปปง.ลาออกแล้ว พร้อมแนบหนังสือลาออก มีเนื้อหาว่า
หลังจากพาดพิงถึงประธาน ปปง. และทำให้ท่านตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งต้องยอมรับว่าเป็น ลูกผู้ชาย ขอชื่นชมความกล้าหาญในการตัดสินใจ
เมื่อประชาชนไม่มีตำแหน่งแห่งหนอย่างผมพูด และท่านไม่ตอบโต้ ไม่ปฏิเสธ ไม่กอดอำนาจเอาไว้ หรือ แม้แต่แก้ตัวต่อหน้าสื่อกลับตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวลาออกโดยทันที ถือว่าเป็นวิถีทางที่หาได้ยากยิ่งสำหรับคนมีอำนาจในสังคมไทยทุกวันนี้ เพื่อตอบข้อครหา และพิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มภาคภูมิไร้ ซึ่งตำแหน่งเป็นเกราะป้องกัน
ในนามประชาชน ขอคารวะการตัดสินใจนี้ เพื่อเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่ดีแก่ทุกหน่วยงานรัฐในประเทศไทย พลังของประชาชนยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด และจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งใดๆ ทางการเมือง
ก่อนหน้านั้น นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านกษมา เอี่ยมสกุล นิติกรประจำกลุ่มรับเรื่องราวร้องทุกข์ถึง ศ.พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ขอให้สอบสวน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ประธานกรรมการ/กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และนายเทพสุ บวรโชติดารา รองเลขาธิการ ปปง. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. ว่ามีการกระทำที่ส่อว่าผิดกฎหมายหรือจริยธรรม ให้การช่วยเหลือกลุ่มทุนจีน สีเทาหรือไม่
นายวัชระ อ้างว่า ได้รับหนังสือร้องเรียนจากข้าราชการสำนักงาน ปปง. (ไม่ระบุชื่อ) การทุจริตและประพฤติมิชอบของ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง และ นายเทพสุ บวรโชติดารา ในหลาย ๆ เรื่อง เช่น มีพฤติกรรมเกี่ยวพันนายตู้ห่าว และกลุ่มคนจีนสีเทา ประกอบกับ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการข่าวได้เผยแพร่เรื่องราวความไม่โปร่งใสภายในสำนักงาน ปปง. เกี่ยวกับคดีนายตู้ห่าว และแก๊งทุนจีนสีเทา ซึ่งประชาชนให้ความสนใจและติดตามข่าวเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด