“สนธิรัตน์”ลั่น“พรรคสร้างอนาคตไทย”ไม่มีวันตาย ไม่มีแพแตก

19 ธ.ค. 2565 | 11:36 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ธ.ค. 2565 | 18:41 น.

“สนธิรัตน์”ยัน“พรรคสร้างอนาคตไทย” ไม่มีวันตาย ไม่มีแพแตก เดินหน้าเลือกตั้ง ขอเป็นตัวเลือกให้กับประชาชน ชี้การเมืองขับเคลื่อนด้วยทุนมีมูลความจริง

 

วันนี้(19 ธ.ค.65) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดเผยผ่านรายการ คมชัดลึก” ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 ยืนยันว่า พรรคยังปกติดี ไม่ได้ให้น้ำหนักกับข่าวที่ว่าพรรคมีปัญหา แม้มีบุคคลากรเข้าออกบ้างก็เป็นเรื่องปกติทางการเมือง ยังยืนหยัดการทำงานไม่จำเป็นต้องออกมาสำแดงพลังอะไร 

 

ส่วนข้อสังเกตของอดีตรองหัวหน้าพรรค นายนิพิฏฐ์  อินทรสมบัติ ที่ว่ากองทัพอาจสลาย ก่อนเดินนั้น นายสนธิรัตน์ ยืนยันว่า พรรคสร้างอนาคตไทยไม่มีวันสลาย เพราะไม่ได้เดินการเมืองด้วยทุนทางการเมือง หากเป็นเช่นนั้นก็ไม่ต่างจากพรรคการเมืองอื่น
   

 

ทั้งนี้ เป้าหมายพรรค คือ ต้องการเป็นทางเลือกให้ประชาชน ไม่ได้มุ่งหมายชัยชนะโดยมีทุนเป็นปัจจัย ปัจจุบัน การเมืองมาถึงจุดที่ต้องมานั่งคิดกันว่า การต่อสู้กันทางการเมืองด้วยทุนเป็นหลัก จะส่งผลอย่างไรในอนาคต นักการเมืองจึงต้องยืนหยัดที่จะทำงานกับชาวบ้าน ไม่ใช่ทุนที่เขาเอามาให้  

 

แต่ที่สำคัญ คือ พี่น้องประชาชน จะตัดสินใจอยู่บนกลไก ที่การเมืองปัจจุบันกำหนดหรือไม่ พรรคสร้างอนาคตไทย เสนอบุคคลากรเป็นทางเลือก ให้กับพี่น้องประชาชน 



“การเมืองขับเคลื่อนด้วยทุน ต้องถือว่ามีมูลความจริงอยู่ในนั้น และมีน้ำหนักต่อการเดินเกมการเมืองอย่างมาก ดูได้จากการโยกย้ายทางการเมือง”  


ส่วนการย้ายออกของ นายนิพิฏฐ์ จะทำให้มีแคนดิเดตผู้สมัครส.ส.ภาคใต้ เดินตามออกไปเป็นจำนวนมากจริงหรือไม่ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ระบุว่า ความจริงจะตอบคำถามนี้ในอนาคต พร้อมยืนยันว่า ผู้สมัครที่เป็นเป้าหมาย ส.ส.ในภาคใต้ จะยังคงอยู่  ข้อกล่าวหาที่ว่าพรรคหมดทุน ทำให้คนเดินออกจากพรรคจำนวนมากนั้น เป็นกติกาที่พรรคตั้งไว้แต่ต้น 


ส่วนการควบรวมกับพรรคการเมืองอื่นนั้น นายสนธิรัตน์ ตอบว่า ถือเป็นการวัดความเข้มแข็งของบุคคลากร ที่ต้องการเดินไปกับพรรค ยืนยันว่าแกนนำอย่าง นายสุพล ฟองงาม และ  นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ  ยังอยู่กับพรรค


“พรรคการเมืองที่ดีควรยึดที่อุดมการและการทำงานของพรรค ไม่ใช่ตัวบุคคล เราต้องการสร้างพรรคการเมืองที่ไม่ยึดโยงตัวบุคคล”


สำหรับการควบรวมกับพรรคการเมืองอื่นตามกติกาเลือกตั้งนั้น นายสนธิรัตน์ ย้ำว่า ไม่ได้เจรจาเฉพาะกับพรรคไทยสร้างไทย หรือ พรรคชาติพัฒนากล้า แค่ 2 พรรคเท่านั้น แต่มีการพูดคุยกับหลายพรรค แต่การรวมพรรคไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องขยับถอยคนละก้าว ไม่กระทบบุคคลากรของแต่ละพรรค 


“ตอนตั้งพรรคการเมือง แต่ละพรรคก็ไปชวนบุคคลากรมา เรื่องนี้ต้องมีคำอธิบาย ต้องเลือกความเป็นไปได้มากที่สุด และปัจจุบันก็ยังมีการพูดคุยอยู่ หากเป็นประโยชน์ ทำให้สามารถทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้มากยิ่งขึ้น ก็ยังมีเวลา ยังไม่รู้ว่าจะได้เลือกตั้งเมื่อใด แต่พรรคมีเป้าหมายทางการเมือง ไม่ต้องรวมกับอื่นเลยก็ไม่ได้มีปัญหา แม้ได้ส.ส.ไม่ถึงจำนวนที่จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ก็ตาม” เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ระบุ